พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง ระหว่าง 10 พฤษภาคม 2556 - 16 พฤษภาคม 2556

ข่าวทั่วไป Monday May 13, 2013 07:38 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 10 พฤษภาคม 2556 - 16 พฤษภาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 10-14 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะลิ้นจี่และลำไย เกษตรกรควรเก็บกวาดผล ที่ เน่าเสียและร่วงหล่น ไปกำจัดให้ถูกวิธี ไม่ควรกองสุมไว้ในบริเวณสวน เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและแมลงศัตรูพืช

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับบริเวณทางตอนบนของภาค ซึ่งความชื้นในดินมีเพียงพอหรือมีฝนตกสม่ำเสมอ เกษตรกรสามารถลงมือปลูกพืชได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 10-14 พ.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ10 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

-ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

  • ระยะนี้แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณยังไม่เพียงพอ เกษตรกรควรรอให้มีฝนตกสม่ำเสมอและความชื้นในดินเพียงพอ จึงค่อยลงมือปลูกพืช

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค.,15-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 พ.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • สำหรับชาวสวนผลไม้ควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่น ไปกำจัดให้ถูกวิธี ไม่ควรกองสุมไว้ในบริเวณสวน เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและแมลงศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียสในช่วงวันที่ 10-11 พ.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรในช่วงวันที่ 12-16 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง1-2 เมตร

  • สำหรับชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในระยะต่อไปภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรควรเตรียมขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนัก

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 10-14 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

  • สำหรับชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลสภาพสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในระยะต่อไปภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรควรเตรียมขุดลอกคูคลองและทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนัก
  • ในช่วงวันที่ 11-16 พ.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ