พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 13 พฤษภาคม 2556 - 19 พฤษภาคม 2556

ข่าวทั่วไป Wednesday May 15, 2013 06:35 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 13 พฤษภาคม 2556 - 19 พฤษภาคม 2556

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตะวันตกของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 15-18 พ.ค. อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูกาลจากฤดูร้อนเข้าสู่ ฤดูฝน อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • สำหรับพื้นที่ซึ่งเตรียมดินไว้พร้อมแล้ว หากมีความชื้นในดินเพียงพอ เกษตรกรสามารถปลูกพืชได้ในระยะนี้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 16-19 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
  • ระยะต่อไปจะเข้าสู่ฤดูฝน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลซ่อมแซมหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้รั่วซึม ป้องกันสัตว์เปียกชื้น อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับพื้นที่ ซึ่งดินมีความชื้นเพียงพอ หรือมีฝนตกสม่ำเสมอ เกษตรกรสามารถลงมือปลูกพืชได้แล้วในระยะนี้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากด้านตะวันตกของภาคอุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากด้านตะวันตกของภาคอุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • เนื่องจากในช่วงฤดูฝน แมลงศัตรูสัตว์จะเจริญเติบโต ได้ดี เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูสัตว์ดังกล่าวอย่าให้มารบกวนสัตว์เลี้ยง
  • ส่วนผู้ที่เตรียมดิน เพื่อปลูกพืชในระยะนี้ควรเตรียมทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ไม่ให้น้ำขังในแปลงปลูกพืช ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน และเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 16-19 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่น ไปกำจัด ไม่ควรกองไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
  • ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค.อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่การเกษตร
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 13-16 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่การเกษตร
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
  • ในช่วงวันที่ 13-17 พ.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ