ระหว่าง 17 พฤษภาคม 2556 - 23 พฤษภาคม 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เช่น ลิ้นจี่ และลำไย ระยะนี้จะมีฝนตกชุกอาจทำให้ผลแตกเน่าและเกิดเชื้อราได้ ชาวสวนควรดูแลผลผลิตและป้องกันการลุกลามของเชื้อรา โดยเก็บผลที่เน่าไปทำลาย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง ส่วนมากทางตะวันออกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ระยะนี้เป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลซ่อมแซมโรงเรือนและหลังคาโรงเรือนอย่าให้รั่วซึม หรือฝนสาดเมื่อมีฝนตกหนักและลมแรงในระยะต่อไป เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ส่วนเกษตรกรที่เตรียมดินสำหรับเพาะปลูกพืชไร่ไว้แล้ว คาดว่าระยะต่อไปจะเริ่มมีฝนตกต่อเนื่อง ดังนั้นเกษตรกรสามารถลงมือเพาะปลูกได้ในระยะนี้
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 17-19 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- เกษตรกรที่เตรียมดินเพื่อปลูกพืชไร่ในระยะนี้ ควรจัดระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกัน น้ำขังเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 19-20 พ.ค. อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 17-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-23 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ค. มีฝนตกชุก ทำให้สภาพอากาศมีความชื้นเพิ่มขึ้น ไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรกำจัดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปทำลาย เพื่อป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่มักระบาดในช่วงฤดูฝนซึ่งมีความชื้นสูง
- ในช่วงวันที่ 19-23 พ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 17-18 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. และในช่วงวันที่ 19-23 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตลอดช่วง อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 17 -18พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. และในช่วงวันที่ 19-23 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
- ระยะนี้ทางฝั่งตะวันตกจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดทำระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งดูแลอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- ชาวสวนยางพาราทางฝั่งตะวันตกควรกำจัดวัชพืช และดูแลสวนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราสีชมพู และโรคราสนิม เป็นต้น
- ในช่วงวันที่ 19-23 พ.ค. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74