พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 05 มิถุนายน 2556 - 11 มิถุนายน 2556

ข่าวทั่วไป Thursday June 6, 2013 07:04 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 มิถุนายน 2556 - 11 มิถุนายน 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-6 มิ.ย. และ 9-11 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 7- 8 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ทางด้านตะวันตกของภาคจะมีฝนตกหนัก เกษตรกรในพื้นที่ เสี่ยงภัยบริเวณที่ลุ่มใกล้ทางน้ำไหลผ่านควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายจากฝนตกหนัก
  • ในช่วงนี้จะมีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักควรระวังป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างและโรคใบจุด รวมทั้งควรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-6 และ 10-11 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้มีฝนตกชุก และสภาพอากาศมีความชื้นสูง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ รวมทั้งซ่อมแซมโรงเรือนไม่ให้ฝนสาดและอับชื้น เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับแปลงนาที่อยู่ในระยะเพาะต้นกล้า ควรระวังและป้องกันการระบาดของหนอนกระทู้กล้าข้าว ซึ่งจะกัดกินผิวใบ และลำต้น ทำให้ผลผลิตลดลงและเสียหายได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 5-6 และ 9-11 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย.มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ระยะนี้มีฝนตกชุกผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลคุณภาพน้ำภายในบ่ออย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมถึงควรเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับ กั้นขอบบ่อเลี้ยงเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีฝนตกหนัก
  • ระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดโรคไหม้ในต้นกล้า ไม่ควรหว่านกล้าให้หนาแน่นเกินไป

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 5-8 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ช่วงนี้จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชไร่ พืชสวนในระยะนี้ควรเตรียมดินและยกร่องแปลงปลูกให้สูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก รวมทั้งควรคลุกเมล็ดพันธุ์และชุบท่อนพันธ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราก่อนปลูก
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 5-8 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 9-11 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ระยะนี้ภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำขังบริเวณที่ลุ่มได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า
  • สำหรับชาวสวนยางพารา ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง รวมทั้งใช้สารป้องกันเชื้อราทาบริเวณหน้ากรีดยาง
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เช่น ทุเรียนและมังคุด ชาวสวนควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนทำให้ผลผลิตเสียหายได้

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 9-11 มิ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 5-8 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ในช่วงวันที่ 9-11 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

  • ระยะนี้ภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำขังบริเวณที่ลุ่มได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า
  • สำหรับชาวสวนยางพารา ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง รวมทั้งใช้สารป้องกันเชื้อราทาบริเวณหน้ากรีดยาง
  • ในช่วงนี้ บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 9 - 11 มิ.ย.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ