พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 07 มิถุนายน 2556 - 13 มิถุนายน 2556

ข่าวทั่วไป Monday June 10, 2013 07:05 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 07 มิถุนายน 2556 - 13 มิถุนายน 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้มีฝนตกต่อเนื่องความชื้นในดินมีมาก เกษตรกรที่ปลูกพืชผักและไม้ดอก ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจาก เชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย.จะมีฝนตกหนัก ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากับ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้เป็นช่วงต้นฤดูฝน สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวนาไม่ควรหว่านกล้าแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสะสมในแปลงกล้า อาจนำมาซึ่งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคไหม้
  • ส่วนเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และควรจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อเอาไว้ให้พร้อม เพื่อลดความเสียหายเมื่อมีฝนตกหนัก

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะจะทำให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชผักและอยู่ในระยะเจริญเติบโตควรระวังการระบาดของหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งมักระบาดในช่วงสภาพอากาศมีความชื้นสูง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  • ในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. จะมีฝนตกหนัก สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วควรตัดแต่งกิ่ง รวมทั้งกำจัดวัชพืช และดูแลบริเวณสวนให้โล่งเตียน อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • สำหรับเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บริเวณชายฝั่งควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเพราะจะทำให้สัตว์น้ำปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ในช่วงวันที่ 10-13 มิ.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 7-9 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • สำหรับชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 7-8 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ในวันที่ 7-8 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

  • ในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝน ตกหนัก เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ในช่วงวันที่ 9-13 มิ.ย. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ