ระหว่าง 12 มิถุนายน 2556 - 18 มิถุนายน 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 12-16 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ในช่วงนี้ สภาพอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรที่ปลูกพืชผักควรระวังป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างและโรคใบจุด
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้โปร่ง อย่าให้อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรค ได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 12-16 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วน ในช่วงวันที่ 17-18 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูงเกษตรกรที่ปลูกข้าวควรระวังและป้องกันโรคใบจุดสีน้ำตาลและโรคไหม้ ซึ่งมักระบาดในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้อยู่ในที่ชื้นแฉะรวมทั้งดูแลโรงเรือนไม่ให้ฝนสาดและอับชื้นเพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 12-16 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 มิ.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ในช่วงวันที่ 12-16 มิ.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะฝนตกหนัก
- สำหรับฝนที่ตกชุกในช่วงนี้จะเป็นผลดีต่อการเกษตร เกษตรกรที่เตรียมดินสำหรับปลูกข้าวไม่ควรหว่านกล้าแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสะสมในแปลงกล้า อาจนำมาซึ่งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคไหม้
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12-13 และ16-18 มิ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
- ในช่วงนี้จะมีฝนตกชุก กับมีฝนตกหนัก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย และที่ลุ่มใกล้ทางน้ำไหลผ่านควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายเนื่องจากสภาวะฝนตกหนัก
- ช่วงที่มีฝนตกหนัก ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหาย เนื่องจากสภาพน้ำในกระชังเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
- ในช่วงวันที่ 12-18 มิ.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 -3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 14-16 มิ.ย. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนตกชุกโดยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มอาจเกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
- ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนตกชุกโดยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มอาจเกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า
- ในช่วงวันที่ 12-18 มิ.ย. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74