ระหว่าง 19 มิถุนายน 2556 - 25 มิถุนายน 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้แม้ว่าจะมีฝนตก แต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควร ให้น้ำเพิ่มเติมกับไม้ผลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะลำไยซึ่งอยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผลหากขาดน้ำอาจทำให้ชะงักการเจริญเติบโต
- ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานและมีแหล่งเก็บกักน้ำ เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะที่มีฝนน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจายร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้มีฝนตกแต่ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชไร่ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยต่าง ๆ
- เนื่องจากในช่วงนี้ปริมาณฝนน้อย เกษตรกรควรใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพและควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงต่อไป
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้จะเป็นผลดีต่อการเกษตร เกษตรกรที่เตรียมดินสำหรับปลูกพืชรุ่นใหม่ ควรคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราและควรยกร่องแปลงปลูกให้สูงเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในช่วงที่ฝนตกหนัก
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และควรจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อเอาไว้ให้พร้อม เพื่อลดความเสียหายเมื่อมีฝนตกหนัก
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง ไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรที่ตัดแต่งกิ่งควรทาบริเวณแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา
- ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ผู้ที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ภาคใต้จะยังคงมีฝนตกชุก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นและ ความชื้นในดิน มีมาก ไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน ชาวสวนควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ผลผลิตลดลง
- ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. บริเวณทะเลอันดามัน จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนักและคลื่นลมแรง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ภาคใต้จะยังคงมีฝนตกชุก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นและ ความชื้นในดิน มีมาก ไม้ผลที่อยู่ในระยะติดผลอ่อน ชาวสวนควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ผลผลิตลดลง
- ในช่วงวันที่ 19-23 มิ.ย. บริเวณทะเลอันดามัน จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังป้องกันผลกระทบจากสภาวะฝนตกหนักและคลื่นลมแรง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74