ระหว่าง 24 มิถุนายน 2556 - 30 มิถุนายน 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตะวันออกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. จะมีฝนตกชุกและฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันออกของภาค ซึ่งเป็นผลดีกับพืชไร่ที่เจริญเติบโตและข้าวนาปีที่เพาะกล้าไปแล้ว เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะที่มีฝนตกน้อยด้วย
- สำหรับมะม่วงที่เก็บผลผลิตเสร็จแล้ว ชาวสวนควรทำการตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง และตัดกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลาย ไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของศัตรูพืช
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. ทางตอนบนของภาคยังคงมีฝนตกชุก และฝนตกหนักบางแห่ง สภาพอากาศที่ชื้น ชาวนาควรระวังการระบาดของโรคไหม้ในข้าวนาปีที่อยู่ในระยะกล้า
- บริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำ เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย
- สำหรับทางด้านตะวันตกและตอนกลางของภาคจะมีฝนไม่มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญ เติบโตอย่างเพียงพอ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. จะมีฝนตกชุก และฝนตกหนักทางด้านตะวันตกของภาค เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อยในระยะต่อไปด้วย
- ในช่วงวันที่ 26-30 มิ.ย. ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชไร่และพืชผักที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม รวมทั้งป้องกันกำจัดศัตรูพืชจำพวกหนอนที่จะกัดกินทำให้ผลผลิตลดลง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 24-26 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้จะมีฝนตกชุก โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 24-26 มิ.ย.จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรเก็บผลที่ร่วงหล่นไปทำลาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากผลที่เน่า
- ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 24-26 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 24-26 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 27-30 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ระยะนี้ทางตอนล่างของฝั่งตะวันออกจะมีฝนไม่มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่กำลังเจริญเติบโต รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน
- ในช่วงวันที่ 24-26 มิ.ย. ทางตอนบนของฝั่งตะวันตกจะมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ในช่วงวันที่ 24-25 มิ.ย. คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74