ระหว่าง 01 กรกฎาคม 2556 - 07 กรกฎาคม 2556
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้แม้ว่าจะมีฝนตก แต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมกับไม้ผลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะลำไยซึ่งอยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผลหากขาดน้ำอาจ ทำให้ชะงักการเจริญเติบโต
- ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทานและมีแหล่งเก็บกักน้ำ เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะที่มีฝนน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้แม้ว่าจะมีฝนตก แต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่ที่อยู่ในระยะเจริญ เติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยต่าง ๆ
- บริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำ เพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้แม้ว่าจะมีฝนตก แต่ปริมาณไม่มาก เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชไร่และพืชผักที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม
- ส่วนบริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บกักน้ำเป็นของตนเอง ควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไปและควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้มีปริมาณฝนน้อย และการกระจายของฝนไม่ทั่วถึง เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชไร่และพืชผักที่กำลังเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม
- ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ชาวสวนควรกำจัดวัชพืชและตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง โดยเฉพาะกิ่งที่เป็นโรคและแมลงทำลาย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- ในช่วงนี้จะมีฝนลดลง เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่เจริญเติบโตอย่างเพียงพอ และควรคลุมดินบริเวณโคนต้นเพื่อสงวนความชื้นในดิน รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำ
- ในช่วงวันที่ 4 - 7 ก.ค.ทางตอนบนของภาคจะมีฝนเพิ่มขึ้น สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชผัก
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- ในช่วงนี้จะมีฝนลดลง เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่เจริญเติบโตอย่างเพียงพอ และควรคลุมดินบริเวณโคนต้นเพื่อสงวนความชื้นในดิน รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74