พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 05 กรกฎาคม 2556 - 11 กรกฎาคม 2556

ข่าวทั่วไป Monday July 8, 2013 06:58 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 กรกฎาคม 2556 - 11 กรกฎาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 6-7 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำ23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ แม้จะมีฝน แต่การกระจายไม่ทั่วถึง นาข้าวที่อยู่ระหว่างเพาะกล้า และปักดำชาวนาควรดูแลจัดการน้ำให้เหมาะสม หากน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ต้นข้าวชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
  • ในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำ ไว้ใช้ในระยะต่อไป นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-7 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • ปริมาณฝนที่ตกระยะนี้มีไม่มาก นาข้าวที่อยู่ระหว่างเพาะกล้า และปักดำ ชาวนาควรดูแลจัดการน้ำให้เหมาะสม หากมีน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ผลผลิตลดลง
  • ในระยะที่ผ่านมาบริเวณด้านตะวันตก ตอนกลาง และตอนล่างของภาคมีฝนตกไม่ต่อเนื่อง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ และพืชผักควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช เพื่อป้องกันพืชชงักการเจริญเติบโต และระวังป้องกันศัตรูพืชจำพวกเพลี้ยเข้าทำลายผลผลิต

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 6-7 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.ค.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทาง ตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ แม้จะมีฝน แต่การกระจายไม่ทั่วถึง เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชไร่และพืชผัก เพราะหากขาดน้ำพืชจะชะงักการเจริญเติบโต ส?งผลให?ผลผลิตด?อยคุณภาพ
  • ในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำ ไว้ใช้ในระยะต่อไป นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 6-7 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. จะมีฝนตกชุก และฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำ ไว้ใช้สำหรับการเกษตรในระยะต่อไปที่มีฝนตกน้อยด้วย
  • ไม้ผลที่อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวผลผลิต ชาวสวนควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ผลผลิตลดลง รวมทั้งเก็บผลที่หล่นตามพื้นไปทำลาย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลงศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 5-8 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

  • ภาคใต้ฝั่งตะวันออก แม้จะมีฝน แต่การกระจายไม่ทั่วถึง สวนผลไม้ที่อยู่ในช่วงเจริญเติบโตทางผล เช่น เงาะ ทุเทียน มังคุด และลองกอง ชาวสวนควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งน้ำ และอาหาร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทางตอนบนของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 7-10 ก.ค. ในช่วงวันที่ 5-7 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 8-11 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส

  • ในระยะนี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกชุก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ชาวสวนยางพารา และชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยกำจัดวัชพืชให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นภายในสวน
  • ในช่วงวันที่ 8-11 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ