พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 10 กรกฎาคม 2556 - 16 กรกฎาคม 2556

ข่าวทั่วไป Thursday July 11, 2013 07:01 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 10 กรกฎาคม 2556 - 16 กรกฎาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-12 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำ 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงนี้มีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนลำใย ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ผลผลิตลดลง รวมทั้งเก็บผลที่หล่นตามพื้นไปทำลาย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลงศัตรูพืช
  • ส่วนเกษตรกรที่ปลูกพืชผักควรระวังป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้าง โรคใบจุด

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-12 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้มีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ให้โปร่ง อย่าให้อับชื้น เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนชาวสวนยางพารา ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยดูแลสวนให้โปร่ง และกำจัดวัชพืชให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นภายในสวน

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 11-12 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกพืชผักควรระวังป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้าง โรคใบจุด และโรคผลเน่าในพริก และมะเขือ

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 11-12 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้มีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง ไม้ผลที่อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวผลผลิต ชาวสวนควรระวังป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราทำให้ผลผลิตลดลง รวมทั้งหมั่นสำหรวจภายในสวน อย่าปล่อยให้มีน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้น และรากพืช เพราะหากน้ำท่วมขังในสวนเป็นเวลานานจะทำให้เกิดโรครากเน่า โคนเน่า
  • ในช่วงวันที่ 13 - 16 ก.ค. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากบริเวณตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ยกเว้นในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนน้อย พื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมที่ผ่านมา เกษตรควรรีบพื้นฟูสภาพสวน และขุดลอกคูคลองให้พร้อมใช้งานได้ดังเดิม
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในช่วงเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรหมั่นสำรวจภายในสวน หากพบโรคและแมลงศัตรูพืช ควรรีบกำจัดและทำลาย รวมทั้งเก็บผลที่ร่วงหล่น เน่าเสีย ตามโคนต้นและภายในสวนไปทำลายไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรค และแมลงศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากบริเวณตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ยกเว้นในช่วงวันที่ 13-16 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนน้อย พื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมที่ผ่านมา เกษตรควรรีบพื้นฟูสภาพสวน และขุดลอกคูคลองให้พร้อมใช้งานได้ดังเดิม
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในช่วงเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรหมั่นสำรวจภายในสวน หากพบโรคและแมลงศัตรูพืช ควรรีบกำจัดและทำลาย รวมทั้งเก็บผลที่ร่วงหล่น เน่าเสีย ตามโคนต้นและภายในสวนไปทำลายไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรค และแมลงศัตรูพืช
  • ในช่วงวันที่ 13 -16 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ