พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 31 กรกฎาคม 2556 - 06 สิงหาคม 2556

ข่าวทั่วไป Thursday August 1, 2013 06:58 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 31 กรกฎาคม 2556 - 06 สิงหาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 3-5 ส.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยทางตอนบนของภาคควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง
  • สำหรับพืชไร่ที่แก่ดีแล้ว เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 3 ส.ค. เนื่องจากจะมีฝนเพิ่มขึ้นและอาจได้รับความเสียหายได้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค. และ 5-6 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 2-4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 2-4 ส.ค. จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งอพยพสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง ส่วนพื้นที่เพาะปลูกในที่ลุ่ม เกษตรกรควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้พร้อมใช้งาน
  • ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังความเสียหายเนื่องจากฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิและสภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้จะมีฝนตกชุก ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ให้อับชื้น รวมทั้งอย่าให้พื้นคอกสัตว์เปียกชื้น เพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเจ็บป่วยได้ง่าย
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรยกร่องแปลงปลูกให้สูงกว่าปกติ เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 31 ก.ค.-4 ส.ค.จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี จันทบุรี และตราดควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง และพืชผลทางการเกษตร
  • สภาพอากาศที่ชุ่มชื้นมักเกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างในพืชผัก โรคไหม้ในข้าว โรครากเน่าและโคนเน่าในไม้ผล เกษตรกรควรป้องกันกำจัดโรคพืชดังกล่าวด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 31 ก.ค.- 4 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 5-6 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
  • ทางตอนล่างของฝั่งตะวันออกจะมีฝนไม่มาก ประกอบกับระยะที่ผ่านมามีฝนตกน้อย เกษตรกรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืช รวมทั้งคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • ฝั่งตะวันตกในช่วงวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
  • ทางฝั่งตะวันตกจะยังคงมีฝนตกชุก ชาวสวนยางพาราควรหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวกและช่วยลดการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา
  • บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังตลอดช่วง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ