พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 05 สิงหาคม 2556 - 11 สิงหาคม 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday August 6, 2013 06:53 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 สิงหาคม 2556 - 11 สิงหาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-7 และ 10-11 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนัก บางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้มีฝนตกชุก ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้รั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับผู้ที่ปลูกกาแฟ ในระยะนี้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคราสนิมซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง เกษตรกรควรดูแลบริเวณสวน ให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-6 และ 10-11 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • ในระยะนี้มีฝนตกชุก เกษตรกรควรดูแลแปลงปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดี เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ ชื้นแฉะโดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบเพราะอาจเป็นโรคปากและเท้าเปื่อยได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 5-7 และ 10-11 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้าน ตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 8-9 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทาง ด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 8-9 ส.ค. พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกและเตรียมอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคง่าย

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 7-9 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 6-11 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 8-9 ส.ค. พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกและเตรียมอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน
  • สำหรับไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วเช่น ทุเรียน มังคุด และลองกอง เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งและทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในบริเวณสวน เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 6-11 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าทางฝั่งตะวันออก ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนและโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง โดยหมั่นสังเกตหากพบการระบาดของโรคและศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัดก่อนจะระบาดเป็นบริเวณกว้าง
  • ส่วนชาวสวนยางพารา ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีฝนตกชุก
  • บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 6-11 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าทางฝั่งตะวันออก ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนและโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง โดยหมั่นสังเกตหากพบการระบาดของโรคและศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัดก่อนจะระบาดเป็นบริเวณกว้าง
  • ส่วนชาวสวนยางพารา ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีฝนตกชุก
  • บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ