ระหว่าง 12 สิงหาคม 2556 - 18 สิงหาคม 2556
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
- สำหรับพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากแปลงเพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช และหากพบต้นที่ล้มเอนควรผูกยึดให้ตั้งตรง ถ้ามีแผลควรตัดแต่งรอยแผลแล้วทาด้วยสารป้องกันเชื้อรา
- ส่วนชาวสวนผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว ควรตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมา เกษตรกรควรรีบพื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม
- สำหรับผู้ทีเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยอย่าให้น้ำฝนที่ตกไหลลงบ่อ ป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการย่ำแอ่งน้ำที่สกปรก หากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้าบูต เพื่อป้องกันโรคฉี่หนู
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 12-13 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก อย่าให้อับชื้น และพื้นคอกไม่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ส่วนพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก รวมทั้งเตรียมอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 14-16 ส.ค. ในช่วงวันที่ 12-13 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนานกิน7 วัน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นตายได้
- ระยะนีชาวสวนยางพาราควรดุแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรคหน้ากรีดยางเป็นต้น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 12-13 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- สำหรับระยะนี้ บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันออก พื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีกับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต แต่ควรหมั่นสังเกตเพราะอาจมีศัตรูพืชจำพวกหนอน และโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราระบาดได้ หากพบการระบาดของโรคและศัตรูพืชดังกล่าวควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้แพร่ไปสู่ผลอื่นๆ
- ระยะนี้ฝนตกชุกชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคใบยางร่วงลูกยางเน่าและโรคหน้ากรีดยางเป็นต้น ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
- ระยะนี้บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค. จะมีคลื่นลมแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 12-13 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
- สำหรับระยะนี้ บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนมากกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันออก พื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ระยะนี้ฝนตกชุกชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคใบยางร่วงลูกยางเน่าและโรคหน้ากรีดยางเป็นต้น ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
- ระยะนี้บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และในช่วงวันที่ 14-18 ส.ค. จะมีคลื่นลมแรงขึ้น ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดิน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74