ระหว่าง 04 กันยายน 2556 - 10 กันยายน 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 4 - 6 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากบริเวณตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 7 - 9 ก.ย. ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 4-6 ก.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
- ระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชไร่ และพืชผัก เช่นโรคเน่าคอดินในถั่วเหลือง และโรคราสนิมในกะหล่ำปลี
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังความเสียหายเนื่องจากฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิและสภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 4 - 6 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากบริเวณตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 7 - 9 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 4-6 ก.ย. จะมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- สำหรับชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของหอยเชอรี่ โดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำไหลเข้านาแล้วจับไปทำลาย
- ช่วงนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบไหม้ และโรคใบร่วง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 4-6 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 7-9 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 7-9 ก.ย.จะมีฝนตกชุก ผู้ที่ปลูกไม้ดอกควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยหมั่นสำรวจแปลงปลูกหากพบต้นที่เป็นโรคควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไป ยังต้นอื่น
- ช่วงนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวนาควรระวังป้องกันการระบาดของโรคไหม้ และหนอนกอข้าว ซึ่งจะทำให้ต้นข้าวชะงักการเจริญเติบโต
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 4-7 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย.จะมีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูงชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคเส้นดำและโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า โดยดูแลสวนยางให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก
-ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ และพืชผักควรดูแลแปลงปลูกให้มีการระบายน้ำที่ดีเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ซึ่งจะทำให้เกิดการระบาดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 4-7 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย.ภาคใต้จะมีปริมาณฝนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพืชที่กำลังเจริญเติบโต
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล และเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรควรหมั่นสำรวจและดูแล หากพบผลที่ถูกหนอนกัดกินหรือผลเน่าเสีย ควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคระบาดไปยังผลอื่น
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรลดความชื้นภายในสวน โดยดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 4-7 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย.ภาคใต้จะมีปริมาณฝนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพืชที่กำลังเจริญเติบโต
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล และเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรควรหมั่นสำรวจและดูแล หากพบผลที่ถูกหนอนกัดกินหรือผลเน่าเสีย ควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคระบาดไปยังผลอื่น
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรลดความชื้นภายในสวน โดยดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74