ระหว่าง 11 กันยายน 2556 - 17 กันยายน 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนกาแฟควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ใบและต้นเสียหายได้ โดยดูแลบริเวณสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันความชื้นสะสมในสวน
- เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลงโดยเริ่มจากทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนที่ตกในระยะนี้ไว้ใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่ฝนตกน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงที่ฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะ โรคไหม้ รวมถึงการระบาดของหอยเชอรี่ที่มากับน้ำในช่วงที่มี ฝนตกหนัก
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ โดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน เนื่องจากในระยะต่อไปจะมีฝนเพิ่มขึ้น
- ส่วนผู้เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ไม่ให้อับชื้น อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอ เป็นโรคได้ง่าย
- ในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง ผู้ที่ปลูกพืชผัก ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคเน่า
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงนี้จะมีฝนตกชุก สวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ในสวน และไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งอาศัยหลบซ่อนของศัตรูพืช
- สำหรับชาวสวนยางพาราควรดูแลสวน ให้โปร่งอากาศถ่ายเท ได้สะดวก เพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วงลูกยางเน่า และโรคหน้ากรีดยาง เป็นต้น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
- ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ในระยะนี้จะมีฝนตกชุก โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก และควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวน
- สำหรับทางฝั่งตะวันออก ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีกับพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต แต่ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชซึ่งจะกัดกินทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต
- ในช่วงวันที่ 14 -16 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ในระยะนี้จะมีฝนตกชุก โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก และควรระวังโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวน
- ในช่วงวันที่ 14 -16 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74