พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 18 กันยายน 2556 - 24 กันยายน 2556

ข่าวทั่วไป Thursday September 19, 2013 08:03 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 18 กันยายน 2556 - 24 กันยายน 2556

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้มีฝนตกชุก เกษตรกรที่ปลูกไม้ผล เช่นลำใยและลิ้นจี่ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน รวมทั้งเก็บกวาดใบ และกิ่งที่ร่วงหล่น รวมทั้งวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปกำจัดให้ถูกวิธีไม่ควรกองสุมไว้ในสวนเพราะจะเป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มลดลง โดยเฉพาะทางตอนบนของภาคก่อน พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 18-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปถึงทั่วไป ร้อยละ 70-90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับพืชไร่ที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ป่วยโดยตรงหากมีความจำเป็นควรสวมถุงมือทุกครั้ง

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร โดยเตรียมอพยพสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์ และเมล็ดพันธุ์พืชไปใว้ในที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรจัดเตรียมวัสดุ และอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อ รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันควมเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

  • ช่วงนี้จะมีฝนตกชุกพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นตายได้
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพริกไทย ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่า หากพบต้นที่เป็นโรคดังกล่าวควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ
  • สำหรับในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตรผู้ที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20-22 ก.ย. มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ทางภาคใต้จะมีฝนตกชุก โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงปลูกพืช ซึ่งจะนำมาซึ่งโรคที่เกิดจากเชื้อรา
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืชไม่ให้กลับมาระบาดได้อีก
  • ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20-22 ก.ย. มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ทางภาคใต้จะมีฝนตกชุก โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงปลูกพืช ซึ่งจะนำมาซึ่งโรคที่เกิดจากเชื้อรา
  • สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืชไม่ให้กลับมาระบาดได้อีก
  • ในช่วงวันที่ 19-21 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ