ระหว่าง 20 กันยายน 2556 - 26 กันยายน 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.ย. ฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ดอกและพืชผัก ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง หากพบต้นที่เป็นโรคควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ
- เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝน ปริมาณฝนจะเริ่มลดลงโดยจะเริ่มจากทางตอนบนสุดของภาคเหนือก่อน เกษตรกรควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางด้านการเกษตร และวางแผนการให้น้ำ ให้มีประสิทธิภาพ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 20-21 และ ในช่วงวันที่ 24-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 22-23 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
- เนื่องจากระยะที่ผ่านมามีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค พื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วม เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกและฟื้นฟูพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม
- สำหรับพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมขัง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคฉี่หนูโดยหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรก หากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้าบู้ททุกครั้ง รวมถึงผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในพื้นที่ชื้นแฉะเพื่อป้องกันสัตว์อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์กีบ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 20-21 และ ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เว้นแต่ในช่วงวันที่ 22-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ในช่วงที่มีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังและป้องกันสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ เช่น งู ตะขาบ และแมงป่อง เป็นต้น
- สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งถูกน้ำท่วม เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก อย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เกิน 7 วัน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 20-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
- ช่วงนี้จะมีฝนตกชุก พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าและโคนเน่า ในไม้ผล
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ในช่วงวันที่ 24-26 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20-22 ก.ย. มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืชไม่ให้กลับมาระบาดได้อีก
- สำหรับบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตรตลอดช่วง ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20-22 ก.ย. มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
- ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยเผาหรือฝังให้ลึก เพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตของโรคและศัตรูพืชไม่ให้กลับมาระบาดได้อีก
- สำหรับบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตรตลอดช่วง ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74