พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 23 กันยายน 2556 - 29 กันยายน 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday September 24, 2013 06:49 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 23 กันยายน 2556 - 29 กันยายน 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. ฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. ฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคไหม้ รวมถึงการระบาดของหอยเชอรี่ที่มากับน้ำในช่วงที่มีฝนตกหนัก
  • เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝน ปริมาณฝนจะเริ่มลดลงพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ทางด้านการเกษตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 25-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้จะมีฝนตกชุก พื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมขัง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคฉี่หนูโดยหลีกเลี่ยงการย่ำน้ำที่สกปรก หากมีความจำเป็นควรสวมรองเท้าบู้ททุกครั้ง
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในพื้นที่ชื้นแฉะเพื่อป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์กีบ
  • เนื่องจากระยะที่ผ่านมามีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค พื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วม เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกและฟื้นฟูพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้จะมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง พื้นที่การเกษตรในบริเวณที่ลุ่ม เกษตรกรควรยกร่องแปลงปลูกพืชให้สูง รวมทั้งจัดระบบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งถูกน้ำท่วม เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก อย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนานเกิน 7 วัน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศต้นพืชตายได้

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

  • สัปดาห์นี้จะมีฝนตกชุก พื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำขังบริเวณโคนต้นพืชซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่า โคนเน่าในไม้ผล และโรคเน่าคอดินในพืชไร่
  • ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโต สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรเก็บผลที่เน่าและร่วงหล่นไปทำลาย ไม่ควร ปล่อยไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของศัตรูพืช และโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนตอนทางล่างของภาคบริมาณฝนตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค สำหรับในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ก.ย ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ภาคใต้ตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโต สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรเก็บผลที่เน่าและร่วงหล่นไปทำลาย ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของศัตรูพืช และโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนตอนทางล่างของภาคบริมาณฝนตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
  • ในช่วงวันที่ 23-25 ก.ย. ทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ