ระหว่าง 25 กันยายน 2556 - 01 ตุลาคม 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-28 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 25-28 ก.ย. จะยังคงมีฝนตกชุก สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักควรระวังป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรกักเก็บน้ำสำรองเอาไว้ใช้ทางการเกษตร เพราะปริมาณฝนจะเริ่มลดลงในระยะต่อไป
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย. และ 30 ก.ย.- 1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 28-29 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งควรป้องกันความเสียหายจากลมกระโชกแรง โดยค้ำยันกิ่งของไม้ผลให้แข็งแรง
- สำหรับบริเวณที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง หากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออก และฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรและแหล่งน้ำที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของหอยเชอรี่ โดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำไหล แล้วจับหอยไปทำลาย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 27 ก.ย.-1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 27 ก.ย. — 1 ต.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทัน และควรกั้นขอบบ่อให้สูงเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้า เนื่องจากในระยะต่อไปจะมีฝนเพิ่มขึ้น
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมี คลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้จะมีฝนตกชุก เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืช
- สำหรับชาวสวนควรดูแลบริเวณโคนต้นของไม้ผลให้โล่งเตียนไม่ให้อับชื้น รวมทั้งไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในสวนเพราะจะทำให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ในช่วงวันที่ 25 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 26 ก.ย. — 1 ต.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- ระยะนี้จะมีฝนชุกส่วนมากทางตอนบนของภาค ไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่ง แล้วทาด้วย ปูนแดงเพื่อป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีอากาศชื้น
- สำหรับทางตอนล่างของฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
คำพยากรณ์ รวมอยู่ในส่วนของ ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)แล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74