พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 07 ตุลาคม 2556 - 13 ตุลาคม 2556

ข่าวทั่วไป Tuesday October 8, 2013 06:58 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 07 ตุลาคม 2556 - 13 ตุลาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียสโดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

-ในช่วงนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงและจะเริ่มมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยเฉพาะบริเวณยอดดอยและเทือกเขาสูงอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกษตรควรจัดทำแผงกำบังลมหนาวและเพิ่มดวงไฟให้ความอบอุ่นแก่สัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอรวมทั้งดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

  • เนื่องจากปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงโดยเริ่มจากทางตอนบนของภาค เกษตรกรที่มีแหล่งเก็บกักน้ำเป็นของตนเอง ควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำทางด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำพอใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันออก และตอนล่างของภาคลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

-ในช่วงนี้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงซึ่งจะช่วยให้พื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมามีระดับน้ำลดลงหลังจากที่ระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเก็บเศษซากต่างๆออกจากพื้นที่เพาะปลูกแล้วปรับปรุงพื้นฟูดินให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ควรสวมรองเท้าบูททุกครั้งในขณะที่ปฏิบัติงานในบริเวณที่มีน้ำท่วมขังเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู

-ระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพราะร่างกายอาจปรับตัว ไม่ทัน ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณตอนล่างของภาคลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

-ในช่วงนี้ยังมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

  • สำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วม เกษตรควรระวังโรคที่มากับน้ำ เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และรับประทานอาหารที่สุกสะอาด เพื่อป้องกันโรคท้องร่วง รวมทั้งระวังสัตว์มีพิษเช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ที่จะหนีน้ำขึ้นมาบนอาคารบ้านเรือนได้

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

-ในช่วงนี้ยังมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่งเกษตรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

-สำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วม เกษตรควรระวังโรคที่มากับน้ำ เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคตาแดง และรับประทานอาหารที่สุกสะอาด เพื่อป้องกันโรคท้องร่วง รวมทั้งระวังสัตว์มีพิษเช่น งู ตะขาบ แมงป่อง เป็นต้น

-อนึ่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค.บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรงชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณตอนบนของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม. โดยช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

-ในช่วงนี้ยังมีฝนตกชุกโดยเฉพาะ วันที่ 7-9 ต.ค. จะมีฝนตกหนักบางแห่งเกษตรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ควรขุดรอกคูคลอง ทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมขัง

-อนึ่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค.ชาวเรือและชาวประมงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วยและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาคลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 10-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

-ในช่วงนี้ยังมีฝนตกชุกโดยเฉพาะ วันที่ 7-9 ต.ค. จะมีฝนตกหนักบางแห่งเกษตรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ควรขุดรอกคูคลอง ทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมขัง

-อนึ่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค.ชาวเรือและชาวประมงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วยและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ