ระหว่าง 14 ตุลาคม 2556 - 20 ตุลาคม 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 14 -17 ต.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างและทางตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- เนื่องจากระยะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่น รวมทั้งปรับปรุงคอกสัตว์ให้ป้องกันอากาศที่จะหนาวเย็นลงในระยะต่อไป
- สำหรับข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงนี้ เกษตรกรควรลดความชื้นก่อนนำเข้าโรงเก็บ เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค โดยมีฝนปานกลาง กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีลมแรงส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม
- ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมเมื่อระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้กลับสู่สภาวะปกติ
- ในช่วงวันที่ 15 - 16 ต.ค. จะมีฝนกระจายและมีลมแรงทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 14-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ต.ค. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวทางตอนบนของภาค อากาศจะเริ่มเย็นลง เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกันหนาว ไว้ให้พร้อมใช้งาน
- สำหรับข้าวนาปีที่อยู่ในระยะแตกกอและออกรวง ชาวนาควรระวังการระบาดของหนอนกอข้าว และหนอนห่อใบข้าว หากพบการระบาดควรรีบกำจัด
- สำหรับพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคที่มากับน้ำ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า เป็นต้น
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 14-18 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียสทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม หากมีน้ำท่วมขัง เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศและต้นตายได้
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมในสวนป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบยางร่วง ลูกยางเน่า และโรคหน้ากรีดยาง เป็นต้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60 -80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 14-18 ต.ค. ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 19-20 ต.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. br>- สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้จะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโต รวมทั้งช่วยลดการระบาดของเพลี้ยชนิดต่าง ๆ
- ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรเก็บผลที่เน่าและร่วงหล่นไปทำลาย ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของศัตรูพืช และโรคพืช
- เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีมากขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกคูคลอง และทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในบริเวณแปลงเพาะปลูก
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- สำหรับฝนที่ตกในช่วงนี้จะเป็นผลดีกับพืชที่กำลังเจริญเติบโต รวมทั้งช่วยลดการระบาดของเพลี้ยชนิดต่าง ๆ
- ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรเก็บผลที่เน่าและร่วงหล่นไปทำลาย ไม่ควรปล่อยไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของศัตรูพืช และโรคพืช
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74