พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 30 ตุลาคม 2556 - 05 พฤศจิกายน 2556

ข่าวทั่วไป Thursday October 31, 2013 06:49 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 30 ตุลาคม 2556 - 05 พฤศจิกายน 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 30-31 ต.ค. อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 1 - 3 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย. 56 จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย นอกจากนี้ควรจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่น รวมทั้งปรับปรุงคอกสัตว์เพื่อป้องกันอากาศที่จะหนาวเย็นลงในระยะต่อไป

-ระยะนี้มีหมอกและน้ำค้างทำให้สภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชผักเช่น โรคราน้ำค้างและราสนิมเป็นต้น

  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ส่วนในช่วงวันที่ 31 ต.ค. -2 พ.ย. อากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3-5 พ.ย. 56 จะมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 3-5 พฤศจิกายน จะมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆเกษตรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับผลผลิตทางการเกษตรที่ตากไว้กลางแจ้ง
  • ระยะเริ่มเข้าสู่ต้นฤดูหนาว เกษตรกรควรจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายให้กับตนเองเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งปรับปรุงคอกสัตว์เพื่อป้องกันอากาศที่จะหนาวเย็นลงในระยะต่อไป
  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทานควรวางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 30-31 ต.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1 -3 พ.ย. อากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย. 56 จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกันหนาว ไว้ให้พร้อมใช้งาน
  • ฝนที่ตกในระยะนี้มีปริมาณไม่เพียงพอ เกษตรกรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้แก่พืชที่อยู่ในระยะกำลังเจริญเติบโต รวมทั้งกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากพืช ซึ่งทำให้ผลผลิตลดลง
  • เกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในช่วงฤดูแล้งนี้ ควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพให้เพียงพอตลอดช่วงแล้ง

ในช่วงวันที่ 30-31 ต.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. อากาศเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย. 56 จะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-22องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม หากมีน้ำท่วมขัง เกษตรกรควรรีบระบายน้ำออกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศและต้นตายได้
  • ส่วนบริเวณที่มีความชื้นในดินสูง ชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการกองสุม วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรภายในสวน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 30 ต.ค.- 2 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 3-5 พ.ย. 56 มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนตกชุก พื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากขาดอากาศและต้นตายได้
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 4-5 พ.ย. มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส

  • ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนตกชุก พื้นที่ซึ่งมีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน ทำให้รากขาดอากาศและต้นตายได้
  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ