พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 06 พฤศจิกายน 2556 - 12 พฤศจิกายน 2556

ข่าวทั่วไป Thursday November 7, 2013 08:32 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 06 พฤศจิกายน 2556 - 12 พฤศจิกายน 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 8-12 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  • สำหรับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับเกษตรกรที่ปลูกไม้ดอก พืชผัก และไม้ผลในระยะนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น ราน้ำค้างและ ราแป้ง ในกุหลาบ ราแป้งในมะขามหวาน หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังต้นอื่นๆ
  • ในช่วงวันที่ 8-12 พ.ย. จะมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่บริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 8-12 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • สำหรับอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ เกษตรกรควรดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
  • ส่วนข้าวนาปีซึ่งอยู่ในระยะตั้งท้องและออกรวง ชาวนาต้องดูแลให้น้ำอย่างพอเพียง เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตลดลง รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนโดยเฉพาะหนอนกระทู้คอรวง ซึ่งจะกัดกินทำให้ต้นข้าวเสียหาย
  • ในช่วงวันที่ 8-12 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งโดยเฉพาะทางด้านตะวันออกของภาค เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้ง และกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ในระยะต่อไป

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 พ.ย. มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

  • ในระยะนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรดูแลสุขภาพตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกันหนาว ไว้ให้พร้อมใช้งาน
  • สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำตามบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทันทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหากโตได้ขนาดควรทะยอยจับขายไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 พ.ย. มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรที่ปลูกพืชผักสวนครัว เช่น พริก และมะเขือควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า และโรคเน่าคอดินและไม่ควรนำผลผลิตออกตากแดดในระยะนี้
  • ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย.บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรงชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
  • เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงแล้ง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพและกักเก็บน้ำฝนที่จะตก เพื่อไว้ใช้ในช่วงที่มีฝนน้อย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณตอนบนของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. จะมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะตอนบนของภาค เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว เกษตรกรควรขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำ อย่าให้ตื้นเขิน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
  • สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำตามบริเวณชายฝั่งทางตอนบนของภาคควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์น้ำอาจปรับตัวไม่ทันทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย และหากโตได้ขนาดควรทะยอยจับขาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • สำหรับชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งและขั้วผล และทาแผลรอยตัดด้วยปูนแดง เพื่อป้องกันโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 6-9 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาคลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส

  • สำหรับชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวกป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
  • ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งและขั้วผล และทาแผลรอยตัดด้วยปูนแดง เพื่อป้องกันโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ