ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 - 26 พฤศจิกายน 2556
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 21-24 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศอุ่นขึ้น และมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนในระยะแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
สำหรับในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเล
อันดามันในระยะต่อไป ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ และคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ลงไปและทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไประวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 21-24 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 25-26 พ.ย. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ย. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนเล็กน้อยบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 21-22 พ.ย. อากาศเย็นทางตอนบนของภาคกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 20-23 พ.ย.
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย. มีหมอกบางในตอนเช้า และมีโอกาสฝนตก ร้อยละ 10-20
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 23-26 พ.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีโอกาสฝนตก ร้อยละ 30-40 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74