พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 29 พฤศจิกายน 2556 - 05 ธันวาคม 2556

ข่าวทั่วไป Monday December 2, 2013 08:09 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 29 พฤศจิกายน 2556 - 05 ธันวาคม 2556

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-5 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศหนาวเย็น เกษตรกรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
  • ระยะนี้จะมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะอาจเปียกชื้นเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้

-สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-2 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

-ระยะนี้จะมีลมแรง เกษตรกรควรทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยง และให้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ โดยเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

  • สำหรับในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า ผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะจะเปียกชื้นเสียหายเนื่องจากหมอกและน้ำค้างได้

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-2 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

-เนื่องจากระยะนี้ปริมาณน้ำระเหยมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน

  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัดโดยให้น้ำแก่พืชครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆครั้งและให้น้ำในเวลาเย็น เพื่อลดการระเหยของน้ำ

-สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย แทนการปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะมีน้อย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-2 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

-สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะแตกใบอ่อน เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นทรุดโทรม

  • เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักใว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วป้องกันสัตว์น้ำปรับตัวไม่ทันจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

-ระยะนี้ภาคใต้จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากโดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออก ในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกัน เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว โดยทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในแปลงเพาะปลูก

-สำหรับชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

-ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะดังกล่าว

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

-สำหรับพืชสวนชาวสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นสะสมภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา

-ในช่วงวันที่ 2-4 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะดังกล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ