ระหว่าง 04 ธันวาคม 2556 - 10 ธันวาคม 2556
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 4-10 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค. โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ในช่วงนี้มีอากาศหนาวเย็น เกษตรกรโดยเฉพาะเด็กเล็กและคนชราควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- สำหรับสภาพอากาศที่แห้งประกอบกับมีลมแรงในบางช่วง เกษตรกรที่ก่อไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงควรดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
- สภาพอากาศชื้นในตอนเช้า เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคราน้ำค้างในพืชผัก ไม้ดอก และไม้ผล
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
-ในช่วงนี้อากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรโดยเฉพาะเด็กเล็กและคนชราควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- ระยะนี้จะมีลมแรง เกษตรกรควรทำแผงกำบังลมหนาวให้แก่สัตว์เลี้ยง และให้ความอบอุ่นอย่างเพียงพอ โดยเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนโดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็ก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ช่วงนี้สภาพอากาศแห้ง และมีแสงแดดจัด เกษตรกรสามารถนำผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้วออกผึ่งแดดเพื่อลดความชื้นป้องกันการเกิดเชื้อรา
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ธ.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์เลี้ยงอาจปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- สภาพอากาศแห้ง และปริมาณน้ำระเหยมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่ และไม้ผล
- สภาพอากาศแห้งและลมแรง ข้าวที่อยู่ในระยะแตกกอเต็มที่ถึงเก็บเกี่ยว เกษตรกรควรป้องกันการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โดยหมั่นสำรวจแปลงนา หากพบควรรีบกำจัด
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 4-6 ธ.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 7-10 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาอุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
- ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพราะสัตว์เลี้ยงอาจปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ส่วนสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตลดลง
- ในระยะต่อไปเป็นช่วงแล้ง เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในตลอดช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดนครศรธรรมราชขึ้นมา อากาศเย็นในตอนเช้า ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรในช่วงวันที่ 5 -10 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่จงหวัดสงขลาลงไปอุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
- ระยะนี้ภาคใต้ตอนล่างจะ มีฝนตกหนัก เกษตรกร ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร
-ในช่วงนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในบริเวณสวน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง
-ในช่วงวันที่ 6-10 ธ.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นลมแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะดังกล่าว
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- ระยะนี้ภาคใต้ตอนล่างจะ มีฝนตกหนัก เกษตรกร ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร
-ในช่วงนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวสวนผลไม้ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในบริเวณสวน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74