ระหว่างวันที่ 6 มกราคม 2557 - 12 มกราคม 2557
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป แต่ยังคงทำให้มีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังอ่อนลงทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้นทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยกำลังแรงขึ้นด้วย โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร โดยเฉพาะอ่าวไทยตอนล่าง และในช่วงวันที่ 10-12 ม.ค. จะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเข้าปกคลุมภาคเหนือ กลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง
สรุปการคาดหมาย ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. บริเวณประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย และมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และภาคใต้มีฝนลดลง
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. อากาศหนาวเย็นลง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมที่แรงขึ้น
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในหลายพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 6-7 ม.ค. อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค. อากาศหนาวกับมีลมแรง และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. อากาศเย็นกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. ฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 6 -8 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ
ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. ฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 6-8 ม.ค. อากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีหมอกในตอนเช้า
และมีหมอกหนาในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ม.ค. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74