พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 31 มกราคม 2557 - 06 กุมภาพันธ์ 2557

ข่าวทั่วไป Monday February 3, 2014 09:54 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 31 มกราคม 2557 - 06 กุมภาพันธ์ 2557

ภาคเหนือ

อุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป กับมีหมอกเพิ่มมากขึ้นและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

  • ระยะนี้ทางตอนบนของภาคอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ
  • สำหรับอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ส่วนในบางช่วงจะมีหมอกและหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ขณะผ่านบริเวณที่มีหมอก
  • ไม้ผลที่อยู่ในระยะพักตัวเตรียมแตกตาดอก เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำพืช รอจนกว่าเห็นดอกชัดเจนแล้วจึงค่อยเริ่มให้น้ำโดยเริ่มจากปริมาณที่น้อยแล้วค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 1-5 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป กับมีหมอกเพิ่มมากขึ้นและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ หลังจากนั้น มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • สำหรับความแตกต่างกันมากระหว่างตอนเช้าและตอนกลางวัน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
  • ระยะนี้จะมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง
  • สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหาย
  • ระยะนี้ปริมาณน้ำระเหยมาก เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

อุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • ระยะนี้จะมีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะขณะหมอกลงจัด โดยเฉพาะรถที่ใช้ทางด้านการเกษตร หากมีความจำเป็นต้องวิ่งบนถนนหลวงขณะหมอกลงจัดควรดูแลไฟหน้าและไฟท้ายให้สามมารถมองเห็นได้ในระยะไกล เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
  • เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงแล้ง น้ำระเหยมีมาก ทำให้ความชื้นในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต อย่างพอเพียง เพราะหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชเหี่ยวเฉา หากขาดน้ำนานจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาถาวรและตายได้
  • เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นและเสียหาย เนื่องจากหมอกและน้ำค้าง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 1-5 ก.พ. อุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไปกับมีหมอกบางในตอนเช้า หลังจากนั้น มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็นอุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก เฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

  • สำหรับมะม่วงที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราดำ หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรฉีดพ่นด้วยน้ำจะทำให้การระบาดลดลง
  • เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และไม้ผล ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ต้นทรุดโทรมส่งผลต่อการออกดอกของพืช
  • ระยะนี้เป็นช่วงแล้ง เกษตรกรควรวางแผนการจัดการน้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ในช่วงวันที่ 1-5 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ หลังจากนั้น มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

  • ระยะนี้อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง
  • พื้นที่ซึ่งขาดฝนเป็นเวลานานทำให้ความชื้นในดินลดลงโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืช ที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

  • ระยะนี้อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้ากับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง
  • พื้นที่ซึ่งขาดฝนเป็นเวลานานทำให้ความชื้นในดินลดลงโดยเฉพาะทางตอนบนของภาค เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืช ที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ