ระหว่าง 03 กุมภาพันธ์ 2557 - 09 กุมภาพันธ์ 2557
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
- ระยะนี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์เลี้ยงที่อ่อนแอปรับตัวไม่ทันจะเป็นโรคได้ง่าย
- สำหรับช่วงนี้จะมีหมอกหนาได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะรถที่ใช้ในการเกษตร หากมีความจำเป็นต้องขับขี่ในถนนหลวงควรตรวจสอบสัญญานไฟหน้าและไฟท้ายให้มองเห็นได้ชัดเจน
- นอกจากนี้เกษตรกรไม่ควรเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เนื่องจากควันไฟจะลอยตัวขึ้นระดับบนได้น้อย แต่จะแผ่ปกคลุมบริเวณใกล้เคียง ทำให้ทัศนวิสัยลดลง และเกิดเป็นมลพิษ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. มีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
- ระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน กลางวันอากาศร้อนส่วนกลางคืนอากาศเย็น เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- ในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. มีฝนบางแห่ง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหาย
- ระยะนี้ปริมาณน้ำระเหยมาก เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ในพืชไร่ และพืชผัก ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรมผลผลิตลดลง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นโดยทั่วไป กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
- สำหรับเกษตรกรที่ต้องการจะปลูกพืชรอบใหม่ ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เช่น พืชผักสวนครัว และถั่วชนิดต่างๆ แทนการปลูกข้าวนาปรังรอบสอง เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงแล้ง
- เนื่องจากระยะอากาศแห้ง น้ำระเหยมีมาก ทำให้ความชื้นในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต อย่างพอเพียง เพราะหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชเหี่ยวเฉา หากขาดน้ำนานจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาถาวรและตายได้
- ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยง ควรดูแลปริมาณน้ำให้สมดุลกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยง หากขาดความสมดุลจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. อุณหภูมิจะสูงขึ้นโดยทั่วไป กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่ และพืชผัก ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตเสียหายได้
- ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลแล้ว ชาวสวนควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชภายในสวน เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากไม้ผล นอกจากนี้ควรป้องกันกำจัดศัตรูพืชจำพวกเพลี้ย และหนอนชนิดต่างๆไว้ด้วย
- ในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. มีฝนบางแห่ง เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหาย
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- สำหรับสภาพอากาศแห้ง และปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชเสียหาย
- ส่วนชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
- เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีเมฆบางส่วน ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา เซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สำหรับสภาพอากาศแห้ง และปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชเสียหาย
- ส่วนชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
- เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74