พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 05 กุมภาพันธ์ 2557 - 11 กุมภาพันธ์ 2557

ข่าวทั่วไป Thursday February 6, 2014 05:59 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 05 กุมภาพันธ์ 2557 - 11 กุมภาพันธ์ 2557

ภาคเหนือ

มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียสลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

  • ระยะนี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์เลี้ยงที่อ่อนแอปรับตัวไม่ทันจะเป็นโรคได้ง่าย
  • สำหรับช่วงนี้จะมีหมอกหนาได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะรถที่ใช้ในการเกษตร หากมีความจำเป็นต้องขับขี่ในถนนหลวงควรตรวจสอบสัญญานไฟหน้าและไฟท้ายให้มองเห็นได้ชัดเจน
  • นอกจากนี้เกษตรกรไม่ควรเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เนื่องจากควันไฟจะลอยตัวขึ้นระดับบนได้น้อย แผ่ปกคลุมบริเวณใกล้เคียง ทำให้ทัศนวิสัยลดลง และเกิดเป็นมลพิษ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 5-8 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • สำหรับ อุณหภูมิอากาศระหว่างกลางวันและกลางคืนแตกต่างกันมาก ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทันทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย เกษตรกรจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
  • ในระยะนี้จะมีฝนบางแห่ง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหาย
  • ในระยะนี้ถึงแม้จะมีฝนแต่มีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ รวมทั้งคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นภายในดิน

ภาคกลาง

ในวันที่ 5-8 ก.พ. มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • ในช่วงวันที่ 5 -7 ก.พ จะมีฝนบางแห่ง โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหาย

-เนื่องจากระยะนี้อากาศแห้ง น้ำระเหยมีมาก ทำให้ความชื้นในดินลดลง เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต อย่างพอเพียง เพราะหากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้พืชเหี่ยวเฉา หากขาดน้ำนานจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาถาวรและตายได้

  • สำหรับเกษตรกรที่ต้องการจะปลูกพืชรอบใหม่ ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เช่น พืชผักสวนครัว และถั่วชนิดต่างๆ แทนการปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงแล้ง

ภาคตะวันออก

ในวันที่ 5-8 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

  • สภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่ และพืชผัก ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ต้นทรุดโทรม ผลผลิตเสียหายได้
  • ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผล ชาวสวนควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งกำจัดวัชพืชภายในสวน เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากไม้ผล นอกจากนี้ควรป้องกันกำจัดศัตรูพืชจำพวกเพลี้ย ชนิดต่างๆไว้ด้วย

-สำหรับมะม่วงที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราดำ หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรฉีดพ่นด้วยน้ำจะทำให้การระบาดลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกมีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

  • สำหรับสภาพอากาศแห้ง และปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชเสียหาย
  • ส่วนชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ฝั่งตะวันตก ในวันที่ 5-8 ก.พ. มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 ก.พ. มีเมฆบางส่วน และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

  • สำหรับสภาพอากาศแห้ง และปริมาณฝนที่ตกมีน้อย เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ หากขาดน้ำจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชเสียหาย
  • ส่วนชาวสวนผลไม้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรต่างๆซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้ต้นพืชทรุดโทรม
  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ