ระหว่าง 07 กุมภาพันธ์ 2557 - 13 กุมภาพันธ์ 2557
ภาคเหนือ
มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส ทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
- ระยะนี้จะมีอากาศหนาวเย็นในตอนกลางคืนและตอนเช้า เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอยางเพียงพอ ส่วนในตอนกลางวันจะมีอากาศร้อน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรให้น้ำอย่างเ เพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะ ทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
- เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
-ส่วนในตอนเช้าจะมีหมอกและน้ำค้าง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคราน้ำค้างและราแป้งในพืชผักและไม้ดอก หากพบโรคดังกล่าวควรรีบควบคุมโรคก่อนจะระบาดเป็นบริเวณกว้าง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- ส่วนผู้ที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ควรมีน้ำสำรองให้แก่พืชอย่างเพียงพอ เนื่องจากระยะจากนี้และระยะต่อไปปริมาณละการกระจายของฝนจะมีน้อยหากพืชได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ชะงักการเจริญเติบโต ถ้าขาดน้ำจะทำให้สูญเสียผลผลิตโดยสิ้นเชิง
- ในช่วงวันที่7-9ก.พ.จะมีฝนบางแห่งโดยเฉพาะทางตอนล่างของภาค เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตทางการเกษตรไว้กลางแจ้ง เพราะอาจทำให้ผลผลิตที่ตากไว้เสียหายได้
- สำหรับปริมาณน้ำที่ระเหยมาก เกษตรกรควรคลุมบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากระยะนี้และระยะต่อไปปริมาณฝนจะมีน้อย
-ระยะนี้ปริมาณน้ำระเหยมีมาก เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชเหี่ยวเฉา ถ้าขาดน้ำนานจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาถาวรต้นตายได้
-เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 7-9 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. อากาศเย็นทางตอนบนของภาค และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคและบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว10-30 กม./ชม.
- เกษตรกรควรวางแผนการจัดการน้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงแล้ง
- สำหรับมะม่วงที่อยู่ในระยะออกดอก เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราดำ หากพบการระบาดของโรคดังกล่าวควรฉีดพ่นด้วยน้ำจะทำให้การระบาดลดลง
-เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และไม้ผล ซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ต้นทรุดโทรมส่งผลต่อการออกดอกของพืช
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 11-13 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. - ฝั่งตะวันตก
-ระยะนี้อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง
-สำหรับทางตอนบนของภาคซึ่งสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ในพืชผักและไม้ผล ซึ่งจะทำให้ต้นพืชทรุดโทรมผลผลิตลดลง
-สำหรับปริมาณน้ำที่ระเหยจะมีมากในระยะนี้ ชาวสวนผลไม้ควรคลุมบริเวณบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน
-ส่วนเกษตรกรที่เก็บกักน้ำเอาไว้ควรใช้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย ในระยะต่อไป
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 7-10 ก.พ. มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.พ. มีเมฆบางส่วนและมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสลมตะวันออก ความเร็ว10-30กม./ชม.
-ระยะนี้อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า เกษตรกรควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง
-สำหรับทางตอนบนของภาคซึ่งสภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด ในพืชผักและไม้ผล ซึ่งจะทำให้ต้นพืชทรุดโทรมผลผลิตลดลง
-ส่วนเกษตรกรที่เก็บกักน้ำเอาไว้ควรใช้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย ในระยะต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74