พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 17 กุมภาพันธ์ 2557 - 23 กุมภาพันธ์ 2557

ข่าวทั่วไป Tuesday February 18, 2014 07:06 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 17 กุมภาพันธ์ 2557 - 23 กุมภาพันธ์ 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. หลังจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้น

  • ระยะนี้อุณหภูมิจะแตกต่างกันมากหระหว่างกลางวันและกลางคืน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หากร่างกายปรับตัวไม่ทัน
  • ส่วนสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรชนิดต่างๆในพืชไร่และไม้ผล
  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทาตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้น

  • ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล อากาศจะแปรปรวนระหว่างอากาศร้อนสลับหนาว เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

-ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อยไม่พอเพียงกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอรวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดในพืชไร่และพืชสวน ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงทำให้พืชเสียหาย

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้น อุณหภูมิจะสูงขึ้น

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักใว้อย่างประหยัด โดยให้น้ำแก่พืชครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้งหรือให้น้ำแก่พืชในเวลาเย็น เพื่อลดการระเหยของน้ำ
  • ระยะนี้ปริมาณน้ำระเหยมีมากผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงควรดูแลปริมาณน้ำให้มีความเหมาะสมกับจำนวนสัตว์น้ำที่เลี้ยงหากขาดความสมดุลจะทำให้สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 17-18 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 19-21 ก.พ. ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ระยะนี้สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ต้นพืชทรุดโทรมส่งผลต่อการผลิดอกออกผลของพืช
  • เกษตรกรควรวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ทางด้านการเกษตรในช่วงที่มีฝนตกน้อย
  • ส่วนชาวสวนยางพาราควรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่งร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2-3 เมตร

  • ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อยไม่พอเพียงกับความต้องการของพืชเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอโดยเฉพาะพืชผักสวนครัว -สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกหากเห็นดอกชัดเจนแล้วจึงค่อยให้น้ำโดยให้ในปริมาณครั้งละน้อยๆก่อนแล้วจึงค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น
  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักใว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
  • ระยะนี้น้ำระเหยมีมาก เกษตรกรควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน
  • อนึ่งในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ.บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 -3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝเล็กน้อยบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้น อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

  • ระยะนี้แม้จะมีฝนแต่ปริมาณน้อยไม่พอเพียงกับความต้องการของพืชเกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอโดยเฉพาะพืชผักสวนครัว -สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกหากเห็นดอกชัดเจนแล้วจึงค่อยให้น้ำโดยให้ในปริมาณครั้งละน้อยๆก่อนแล้วจึงค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น
  • เกษตรกรควรใช้น้ำที่เก็บกักใว้อย่างประหยัด และวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงแล้ง
  • ระยะนี้น้ำระเหยมีมาก เกษตรกรควรคลุมบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน รักษาความชื้นภายในดิน
  • อนึ่งในช่วงวันที่ 20-23 ก.พ.บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 -3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ