ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2557 - 6 เมษายน 2557
ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนจะเข้ามาปกคลุมทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ประกอบกับในช่วงวันที่ 4-7 เม.ย. คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน จากนั้นภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบต่อไป โดยอุณหภูมิจะลดลง 7-10 องศาเซลเซียส
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ส่วนในช่วงวันที่ 3-7 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 18-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-7 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 3-7 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย. มีเมฆบางส่วน โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-7 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย. อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-7 เม.ย. จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-3 เม.ย. เมฆเป็นส่วนมาก และมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 4-7 เม.ย. มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก ร้อยละ 20-40
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74