พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 16 พฤษภาคม 2557 - 22 พฤษภาคม 2557

ข่าวทั่วไป Monday May 19, 2014 06:50 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 16 พฤษภาคม 2557 - 22 พฤษภาคม 2557

ภาคเหนือ

อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง เกือบตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

  • ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศจะแปรปรวนโดยจะมีอากาศร้อนและมีฝนกับฝนฟ้าคะนองในบางวัน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งขณะฟ้าคะนอง
  • แม้จะมีฝนตกแต่ในบางพื้นที่ปริมาณฝนยังมีน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผลหากขาดน้ำจะทำให้ผลชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ในวันที่ 16-17 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน อากาศจะร้อนและบางวันอาจมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งและปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งขณะฝนฟ้าคะนอง
  • สำหรับระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้นเกษตรกรที่ปลูกพืชรุ่นใหม่ในระยะนี้ไม่ควรปลูกแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสะสมในแปลงปลูกมากซึ่งจะเป็นสาเหตุของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราได้
  • เนื่องจากช่วงฤดูฝนความชื้นในดินจะสูงทำให้เห็ดเจริญเติบโตได้ดี เกษตรกรที่เก็บเห็ดในธรรมชาติมารับประทานควรระวังเห็ดที่มีพิษเอาไว้ด้วย

ภาคกลาง

อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ในวันที่ 16-17 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันตก และตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  • เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น พื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำออกจากแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง เมื่อมีฝนตกหนัก ในระยะต่อไป
  • สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรยกพื้นคอกสัตว์ให้สูงและดูแลหลังคาโรงเรือนอย่าให้มีรอยรั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น จนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย รวมทั้งควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรแยกออกจากกลุ่มแล้วรักษา เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปยังตัวอื่นๆ
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อเลี้ยงควรป้องกันน้ำฝนที่ตกบนดินไหลลงบ่อ ซึ่งจะทำให้สภาพน้ำเปลี่ยน สัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคง่าย

ภาคตะวันออก

ในวันที่ 16-17 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 18-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • สำหรับสวนผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งและขั้วผล แล้วทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งไม่ควรกองสุมวัดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้บริเวณโคนต้นพืช เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืชโดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักจะระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ในระยะนี้ควรดูแลระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงปลูกเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป
  • ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรจัดเตรียมวัสดุสำหรับกั้นขอบบ่อ และอุปกรณ์สำหรับสูบน้ำเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ เกือบตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

  • ระยะนี้ทางฝั่งตะวันตกจะมีปริมาณและการกระจายของฝนมากกว่าทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ผู้ที่ปลูกพืชสวนควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราซึ่งมักจะระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกือบตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกกว่า 2 เมตร

-สำหรับทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกแม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชเหี่ยวเฉา โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน หากขาดน้ำจะทำให้ดอกและผลอ่อนหลุดร่วงได้

  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 16-22 พ.ค. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ