ระหว่าง 26 พฤษภาคม 2557 - 01 มิถุนายน 2557
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ค. อากาศร้อนในตอกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกและทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
- ระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศจะแปรปรวน เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชผักในระยะนี้ควรเตรียมดินและยกร่องแปลงปลูกให้สูง เพื่อป้องกันน้ำขังเมื่อมีฝนตกหนัก รวมทั้งควรคลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อราก่อนปลูก
- ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เช่นลิ้นจี่ เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่ง ให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้เจ็บป่วย
- ระยะนี้แม้จะมีฝนตก แต่ปริมาณยังมีน้อยและการกระจายยังไม่ทั่วถึง เกษตรกรที่ปลูกพืชผักควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาถ้าขาดน้ำเป็นเวลานานจะทำให้ต้นพืชตายได้
- เนื่องจากในบางช่วงอาจมีฝนฟ้าคะนอง เกษตรกรไม่ควรอยู่กลางแจ้ง และควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งขณะฟ้าคะนอง
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ค. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สำหรับเกษตรกรที่เตรียมดินสำหรับปลูกพืชรอบใหม่ ควรยกร่องแปลงปลูกให้สูง รวมทั้งเตรียมทำทางระบายน้ำเอาไว้เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และยกพื้นคอกสัตว์ให้สูง เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นช่วงหน้าฝนปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ควรหมั่นสำรวจเนื่องจากอาจมีศัตรูสัตว์เข้ามาอาศัยหลบซ่อนในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์และทำอันตรายแก่สัตว์เลี้ยงได้
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ค. อากาศร้อนขึ้นในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
- ระยะนี้สภาพอากาศมีความชื้นสูง ซึ่งจะทำให้เกิดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ชาวสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งเพื่อลดความชื้นภายในสวนและใช้สารป้องกันเชื้อราทาบริเวณหน้ากรีดยาง
- ระยะต่อไปปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้น สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรเก็บกวาดผลที่ร่วงหล่นไปทำลาย ไม่ควรกองสุมไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
- สำหรับทางตอนบนของภาคใต้ฝั่งตะวันออกแม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชอย่างเหมาะสม เพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชเหี่ยวเฉา โดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผลอ่อน หากขาดน้ำจะทำให้ดอกและผลอ่อนหลุดร่วงได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 26-28 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29 พ.ค.-1 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกกว่า 2 เมตร
- ระยะต่อไปทางฝั่งตะวันตกจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรควรตรวจสอบและดูแลอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งจัดเตรียมทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก ขุดลอกคูคลอง และสันดอนปากแม่น้ำ เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนักในระยะต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74