ระหว่าง 09 มิถุนายน 2557 - 15 มิถุนายน 2557
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้มีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศ มีความชื้นสูง และความชื้นในดินมีมาก เกษตรกรที่ปลูกพืชผักและไม้ดอก ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคราน้ำค้างและโรคใบจุด
- ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เช่น ลิ้นจี่และมะม่วง เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่ง และทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งไม่ควรปล่อยผลที่เน่าเสียและร่วงหล่นไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนบนของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้จะมีฝนเพิ่มขึ้น สภาพอากาศมีความชื้นสูง ชาวนาไม่ควรหว่านกล้าแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสะสมในแปลงกล้า ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคไหม้
- ในช่วงที่มีฝนตก เกษตรกรไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะ เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ
- นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้จะมีฝนตกชุก ซึ่งเป็นผลดีต่อการเกษตร เกษตรกรที่เตรียมดินสำหรับปลูกข้าวไม่ควรหว่านกล้าแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสะสมในแปลงกล้า ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราโดยเฉพาะโรคไหม้
- สำหรับเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรดูแลสภาพน้ำอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และควรจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับกั้นขอบบ่อเอาไว้ให้พร้อม เพื่อลดความเสียหายเมื่อมีฝนตกหนัก
- นอกจากนี้เกษตรกรควรกักเก็บน้ำฝนเพื่อไว้ใช้ทางด้านการเกษตร ในช่วงที่มีฝนตกน้อย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
- สัปดาห์นี้จะมีฝนตกชุก กับมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย และที่ลุ่มใกล้ทางน้ำไหลผ่านควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายเนื่องจากสภาวะฝนตกหนัก
- สำหรับชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวนในช่วงที่ฝนตกหนัก
- อนึ่งในช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากคลื่นซัดฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
-สัปดาห์นี้ภาคใต้จะมีฝนตกชุกโดยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มอาจเกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า
- ส่วนชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวนในช่วงที่ฝนตกหนัก
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไปร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
-สัปดาห์นี้ภาคใต้จะมีฝนตกชุกโดยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มอาจเกิดน้ำท่วมขังได้ เกษตรกรควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันโรครากเน่า โคนเน่า
- ส่วนชาวสวนผลไม้และสวนยางพาราควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวนในช่วงที่ฝนตกหนัก
- อนึ่งในสัปดาห์นี้ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรป้องกันความเสียหายจากคลื่นซัดฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 11 – 15 มิ.ย.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74