ระหว่าง 09 กรกฎาคม 2557 - 15 กรกฎาคม 2557
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-14 ก.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ในช่วงนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศ มีความชื้นสูง ชาวนาไม่ควรหว่านกล้าแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดโรคพืชจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคไหม้ รวมทั้งระวังศัตรูพืชจำพวกหนอนที่มาทำลายต้นข้าว โดยเฉพาะหนอนกระทู้
- สำหรับลำไยที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวน ควรระวังและป้องกัน การระบาดของหนอนเจาะขั้วผลและมวนลำไย
- ส่วนเกษตรกรที่ปลูกไม้ดอก และพืชผัก ควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคใบจุดและดอกเน่าในเบญจมาศ และโรคราน้ำค้างและราสนิม ในพืชผักสวนครัว เป็นต้น หากพบควรรีบกำจัดก่อนจะแพร่ไปสู่ต้นอื่นๆ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วงและมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนและตะวันออกของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-14 ก.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ในช่วงนี้ยังคงมีฝนตกชุก สภาพอากาศ มีความชื้นสูง นาข้าวที่อยู่ระหว่างเพาะกล้า และปักดำ ชาวนาควรระวังการระบาดของโรคไหม้ในกล้าข้าว รวมทั้งการระบาดของหนอนห่อใบข้าว และหนอนกอข้าว
- สำหรับทางตอนบน และทางด้านตะวันออกของภาค มีฝนตกหนัก ชาวสวนยางพารา ควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับต้นยาง และไม่ควรกรีดยางในช่วงนี้ รวมทั้งดูแลบริเวณสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมักระบาดในช่วงที่มีความชื้นสูง
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรระวังสภาพน้ำและคุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรเปิดเครื่องตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ ป้องกันสัตว์น้ำอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วงและมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านตะวันตกของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-14 ก.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
-ในช่วงนี้ทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศ มีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน ซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้พืชเสียหาย ผลผลิตลดลง
- ส่วนทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคแม้จะมีฝนในระยะนี้แต่ปริมาณยังมีน้อยเกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต หากขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกพืชให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้แย่งน้ำและอาหารของต้นพืช ตลอดจนไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 10-14 ก.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเก็บเกี่ยว เช่น เงาะ มังคุดและลองกอง เกษตรกรควรกำจัดผลที่เน่าเสีย และร่วงหล่น ตลอดจนเปลือกผลไม้ต่างๆให้ถูกวิธี โดยเผาหรือฝังให้ลึก ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งอาจจะติดต่อจากเปลือกและผลที่เน่าไปสู่ต้นพืชได้
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10-14 ก.ค. บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วงและมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 10-14 ก.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป:ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
- ในช่วงนี้ทางตอนบนของภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งควรตรวจสอบและดูแลอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหายได้ โดยหมั่นสำรวจสวน หากพบควรรีบกำจัด
- ส่วนชาวสวน ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และกำจัดวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 9-14 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ตลอดช่วงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 9-14 ก.ค.อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียสตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 25-50 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
- ในช่วงนี้ทางตอนบนของภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งควรตรวจสอบและดูแลอุปกรณ์สำหรับระบายน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังเมื่อมีฝนตกหนัก
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล เกษตรกรควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหายได้ โดยหมั่นสำรวจสวน หากพบควรรีบกำจัด
- ส่วนชาวสวน ควรดูแลสวนให้โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และกำจัดวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 9-14 ก.ค. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74