ระหว่าง 30 กรกฎาคม 2557 - 05 สิงหาคม 2557
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศ มีความชื้นสูง และความชื้นในดินมีมาก เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่และพืชผักในระยะนี้ควรป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคราสนิม และโรคเน่าคอดิน เป็นต้น
- สำหรับลำไยที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรรีบตัดแต่งกิ่ง และทาแผลรอยตัดด้วยสารป้องกันเชื้อรา รวมทั้งเก็บกวาดผลที่เน่าเสียร่วงหล่นไปกำจัดไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ในสวน เพราะจะเป็นแหล่งสะสมของโรคและศัตรูพืช
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคส่วนในช่วงวันที่ 2-5 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ทางตอนบนและด้านตะวันออกของภาคยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง เกษตรกรควรเฝ้าระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน และอาคารบ้านเรือน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร
- ส่วนทางด้านตะวันตกของภาค แม้จะมีฝนตกในระยะนี้ แต่ปริมาณ และการกระจาย ไม่พอเพียงต่อความต้องการของพืชโดยเฉพาะพืชไร่ เช่นมันสำปะหลัง เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นไรแดงที่จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบพืช ทำให้พืชทรุดโทรม ชะงักการเจริญเติบโตหากพบควรเก็บใบไปทำลาย
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-1 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตก และตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 2-5 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณ และการกระจาย ไม่พอเพียงต่อความต้องการของพืชที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ควรให้น้ำเพิ่มเติมแก่พืช รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ ที่จะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชทรุดโทรม ชะงักการเจริญเติบโต
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-2 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3-5 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ยังคงมีฝนตกชุก สภาพอากาศ มีความชื้นสูง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคไหม้ และใบจุดสีน้ำตาล รวมทั้งศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกอข้าว และหนอนห่อใบข้าว เป็นต้น
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงปลูกนาน ทำให้รากพืชขาดอากาศและต้นพืชตายได้
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรตั้งแต่นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและสภาพอากาศมีความชื้นสูงผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่น ยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงมีปริมาณฝนตกน้อย ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรให้น้ำเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผลชะงักการเจริญเติบโต และผลผลิตด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ เกษตรกรควรหมั่นสังเกตหากพบผลที่เป็นโรค หรือศัตรูพืชเข้าทำลายควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังผลอื่นๆ
- อนึ่ง ช่วงนี้บริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาค ตลอดช่วง ตั้งแต่ภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่ กระบี่ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและสภาพอากาศมีความชื้นสูงผู้ที่ปลูกพืชสวน เช่น ยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงมีปริมาณฝนตกน้อย ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตทางผล ชาวสวนควรให้น้ำเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ผลชะงักการเจริญเติบโต และผลผลิตด้อยคุณภาพ นอกจากนี้ เกษตรกรควรหมั่นสังเกตหากพบผลที่เป็นโรค หรือศัตรูพืชเข้าทำลายควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังผลอื่นๆ
- อนึ่ง ช่วงนี้บริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74