ระหว่าง 08 กันยายน 2557 - 14 กันยายน 2557
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ข้าวนาปีที่อยู่ในระยะแตกกอชาวนาควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคไหม้ รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูข้าว เช่น หนอนกอข้าว และหอยเชอรี่ เป็นต้น ซึ่งจะกัดกินทำให้ต้นข้าวเสียหายได้
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น พื้นคอกไม่ชื้นแฉะ หลังคาไม่รั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้น อ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรติดตามเฝ้าระวังสภาวะดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรได้
- สำหรับฝนที่ตกในระยะนี้จะช่วยลดปริมาณการระบาดของเพลี้ยแป้งและไรแดงในมันสำปะหลังลงได้ แต่จะทำให้เกิดการระบาดของโรครากและหัวเน่ามันสำปะหลังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังที่มีน้ำท่วมขัง หรือบริเวณแปลงปลูกที่การระบายน้ำไม่ดี
-ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกหนัก และมีฝนตกชุกต่อเนื่องไปตลอดเดือน บริเวณเพาะปลูกที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรยกร่องแปลงปลูกพืชให้สูง รวมทั้งจัดระบบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณลุ่มน้ำต่างๆ ควรเตรียมความพร้อมและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสัตว์น้ำจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำเหนือที่อาจไหลหลากลงมาในระยะนี้ ส่วนสัตว์น้ำที่โตเต็มที่ควรรีบจับขายเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับไม้ผล เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งไม้ผลให้ทรงพุ่มโปร่งแสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น และอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุดในมังคุด โรคราแป้งในเงาะ และโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน เป็นต้น
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส - ส่วนฝั่งตะวันออก ฝนที่ตกในระยะนี้จะเป็นผลดีต่อพืชผลทางการเกษตร ช่วยลดการระบาดศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่น เพลี้ยและไรชนิดต่างๆ
- ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ผล ชาวสวนควรตัดแต่งกิ่งไม้ผลให้ทรงพุ่มโปร่งแสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น และอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุดในมังคุด และโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน เป็นต้น
- ส่วนผู้ที่ปลูกยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากขาวในยางพารา โรคราสนิมในกาแฟ และโรคทลายปาล์มเน่าในปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 8-10 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 11-14 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
- สัปดาห์นี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ผล ชาวสวนควรตัดแต่งกิ่งไม้ผลให้ทรงพุ่มโปร่งแสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น และอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุดในมังคุด และโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน เป็นต้น
- ส่วนผู้ที่ปลูกยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากขาวในยางพารา โรคราสนิมในกาแฟ และโรคทลายปาล์มเน่าในปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง
- สัปดาห์นี้ บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 - 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมง ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74