ระหว่าง 17 กันยายน 2557 - 23 กันยายน 2557
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ในช่วงวันที่ 17 – 18 ก.ย.ยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณทางตอนบนของภาค ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงอาจทำให้เกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคไหม้ ในข้าวนาปีที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต นอกจากนี้อาจมีศัตรูข้าว เช่น หนอนกอข้าว หนอนห่อใบข้าว เป็นต้น ซึ่งจะเข้าทำลาย กัดกินทำให้ต้นข้าวเสียหายได้ ชาวนาควรระวังและป้องกันกำจัด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วงโดยในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. มีฝนตกหนักบางแห่ง มีส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ในช่วงวันที่ 17 – 18 ก.ย ยังคงมีฝนตกหนัก ทางตอนบนของภาคบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม เกษตรกรควรติดตามเฝ้าระวังสภาวะดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรได้
- สำหรับฝนที่ตกในระยะนี้จะช่วยลดปริมาณการระบาดของเพลี้ยแป้งและไรแดงในมันสำปะหลังลงได้ แต่จะทำให้เกิดการระบาดของโรครากและหัวเน่ามันสำปะหลังเพิ่มขึ้นในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังที่มีน้ำท่วมขัง หรือบริเวณแปลงปลูกที่การระบายน้ำไม่ดี
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ในช่วงวันที่ 17 – 18 ก.ย จะมีฝนตกหนัก บริเวณพื้นที่เพาะปลูกที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรยกร่องแปลงปลูกพืชให้สูง รวมทั้งจัดระบบระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
- สำหรับสภาพอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้ ควรดูแลโรงเรือนกล้วยไม้ให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นภายในโรงเรือนป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคราสนิม และโรคยอดเน่า เป็นต้น
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
- ในช่วงวันที่ 17 – 18 ก.ย ยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง และพืชผลทางการเกษตร - สำหรับสวนผลไม้ที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกอย่าให้น้ำท่วมขังบริเวณโคนต้นพืชนาน เพราะจะ ทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
- ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. บริเวณอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ผล ชาวสวนควรดูสภาพสวนให้โปร่ง ตัดแต่งกิ่งให้แสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น เพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา รวมทั้งดูแลวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและแมลงศัตรูพืช
- ส่วนผู้ที่ปลูกยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะช่วยลดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และ เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงภัย ควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร
- สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ผล ชาวสวนควรดูสภาพสวนให้โปร่ง ตัดแต่งกิ่งให้แสงแดดส่องได้ถึงโคนต้น เพื่อลดความชื้นในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา รวมทั้งดูแลวัชพืชในสวนให้โล่งเตียน เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและแมลงศัตรูพืช
- ส่วนผู้ที่ปลูกยางพารา กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะช่วยลดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- ในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และ เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74