พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรระหว่าง 10 ตุลาคม 2557 - 16 ตุลาคม 2557

ข่าวทั่วไป Monday October 13, 2014 08:56 —กรมอุตุนิยมวิทยา

ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ

ระหว่าง 10 ตุลาคม 2557 - 16 ตุลาคม 2557

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 13-16 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อากาศเย็น และมีลมแรง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส

-ในระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว สภาพอากาศจะแปรปรวนโดยจะมีอากาศเย็นในตอนเช้าสลับกับบางวันอาจมีฝนตก เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

  • ในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆ
  • ผู้ที่ปลูกมะขามหวานในระยะนี้ควรระวังและป้องกันโรคราแป้ง โดยจะทำให้ใบอ่อน กิ่งอ่อน และฝักอ่อน แห้งตาย ซึ่งมักระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว หากพบควรรีบกำจัด
  • ในช่วงวันที่ 13-16 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมทั้งทำแผงกำบังลมหนาว โดยเฉพาะสัตว์ที่ยังเล็กควรเพิ่มดวงไฟในโรงเรือนเพื่อให้ความอบอุ่น ป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ ในระยะนี้ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้พืชเสียหายผลผลิตด้อยคุณภาพ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ต่อจากนั้นในช่วงวันที่ 13-16 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา อากาศเย็น และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส

  • เนื่องจากระยะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูฝน เข้าสู่ฤดูหนาว อากาศจะเปลี่ยนแปลง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าสลับกับมีฝนตกในบางวัน เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

-ในช่วงวันที่ 12-13 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว และไม่ควรเข้าใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาสูงๆขณะลมแรง

  • สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชในระยะปลายฤดูฝน ควรเลือกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง
  • ส่วนทางตอนบนของภาคอุณหภูมิจะเริ่มลดลงจนทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า และในช่วงวันที่ 14-16 ต.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนอย่าให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน ทำให้อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
  • ส่วนชาวนาในระยะนี้ควรระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกอ หนอนกระทู้ และหนอนห่อใบข้าว เป็นต้น หากพบควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้แพร่ไปยังต้นอื่นๆ

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส -ในช่วงที่มีฝนตกทำอากาศและดินมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกัน โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในพืชไร่ ไม้ผลและพืชผัก ไว้ด้วย - สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อมิให้น้ำท่วมขังบริเวณแปลงปลูกพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้ - สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่ทางตอนบนของภาค ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชเสียหายผลผลิตลดลง

ภาคตะวันออก

ในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

-ในช่วงที่มีฝนตกทำอากาศและดินมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกัน โรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ในพืชไร่ ไม้ผลและพืชผัก ไว้ด้วย

  • สำหรับพื้นที่การเกษตรที่เป็นที่ลุ่ม เกษตรกรควรระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อมิให้น้ำท่วมขังบริเวณแปลงปลูกพืชนาน เพราะจะทำให้รากพืชเน่า ต้นพืชตายได้
  • สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่ทางตอนบนของภาค ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชเสียหายผลผลิตลดลง

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 13-16 ต.ค.มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 10-12 ต.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และในช่วงวันที่ 13-16 ต.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • สำหรับผู้ที่ปลูกไม้ผล ควรดูแลสวนให้โล่งเตียนไม่ควรกองสุมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไว้ในบริเวณโคนต้น รวมทั้งไม่ควรปล่อยให้ผลที่ร่วงหล่นเน่าเสียอยู่ภายในบริเวณสวน แต่ควรนำไปกำจัด เพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหลบซ่อนของโรคและศัตรูพืช
  • ส่วนพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 11 ต.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

ในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส

  • ในช่วงที่มีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว
  • ส่วนพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมในระยะที่ผ่านมาหากระดับน้ำลดลงแล้ว เกษตรกรควรรีบฟื้นฟูสภาพสวนและแหล่งน้ำให้ใช้ได้ดีดังเดิม
  • อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 11 ต.ค. บริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ