ระหว่าง 24 ธันวาคม 2557 - 30 ธันวาคม 2557
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-28 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 29-31 ธ.ค. มีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ในระยะนี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรควรเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตนเองอย่างเพียงพอ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งดับไฟให้สนิททุกครั้งหลังจากจุดไฟผิงให้ความอบอุ่น เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย
- ในช่วงวันที่ 29-31 ธ.ค บริเวณยอดดอยจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและอาจมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร และควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุสีเข้ม เพื่อรักษาอุณหภูมิดิน
- ในช่วงวันที่ 25-28 ธ.ค จะมีหมอกและน้ำค้างในตอนเช้า ผลผลิตทางการเกษตรที่เก็บเกี่ยวมาแล้ว เกษตรไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งข้ามคืน เพราะจะเปียกชื้นเสียหายได้ นอกจากนี้ เกษตรกรควรขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวังขณะสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-27 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส
- ในระยะนี้อากาศจะหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองอย่างเพียงพอ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อป้องกันน้ำแยกชั้น และเพิ่มออกซิเจนให้กับน้ำ รวมทั้งควรลดอาหาร เนื่องจากอุณหภูมิน้ำที่ลดลงจะทำให้สัตว์น้ำกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย
- สภาพอากาศที่แห้งและลมแรง ทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ และพืชผัก ควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และรักษาความชื้นภายในดิน
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 25-27 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้ง เกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้ ในโรงเรือนควรเพิ่มความชื้นภายในโรงเรือน นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดซึ่งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ
- ส่วนเกษตรกรที่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเองควรวางแผนการใช้น้ำที่เก็บกักใว้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 25-27 ธ.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียสลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงวันที่ 28-31 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- ในระยะนี้สภาพอากาศแห้ง เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น เพื่อลดการระเหยของน้ำและรักษาความชื้นในดิน รวมทั้งระวังและป้องกันศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไร ชนิดต่างๆ ในพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก เป็นต้น ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ
- ส่วนชาวสวนยางพาราควรทำแนวกันไฟรอบพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัย รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจุดไฟในบริเวณสวนหากมีความจำเป็นควรดับไฟ ให้สนิททุกครั้งหลังเลิกใช้งาน
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 25-27 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนมากทางตอนล่าในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาคตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวัน ออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร
- ในระยะนี้ภาคใต้ตอนบนมีอากาศแห้ง ทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน
- สำหรับภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้งจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
- พื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า เป็นต้น ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
- ในช่วงวันที่ 24 และ 28-31 ธ.ค.บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งควรระวังความเสียหายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียสในช่วงวันที่ 25-27 ธ.ค.ลม ตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรในช่วงวันที่ 28-30 ธ.ค. ลมตะวันออก เฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- ในระยะนี้ภาคใต้ตอนบนมีอากาศแห้ง ทำให้น้ำระเหยไปจากดินและพืชได้มาก เกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ ไม้ผล และพืชผัก ควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดิน
- สำหรับภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร พร้อมทั้งจัดทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
- พื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วม เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคตาแดง และน้ำกัดเท้า เป็นต้น ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74