ระหว่างวันที่ 14 มกราคม 2558 - 20 มกราคม 2558
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรงปานกลาง บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14-16 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง สำหรับบริเวณภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-6 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกในตอนเช้า
ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
ตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกบางในตอนเช้า
ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 15-18 ม.ค. อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 14-17 ม.ค. จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
ในช่วงวันที่ 18-20 ม.ค. ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 14-18 ม.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74