ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 - 22 กุมภาพันธ์ 2558
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ. ความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้
พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้ลมตะวันออกเฉียงใต้
ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น
ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะสูงขึ้นกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ตอนบนของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-13 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ. มีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ. มีอากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ในช่วงวันที่ 19-20 ก.พ. อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 16-18 ก.พ. มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19-23 ก.พ. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74