ระหว่างวันที่ 15 เมษายน 2558 - 21 เมษายน 2558
การคาดหมาย ในวันที่ 15 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวจะมีกำลังปานกลาง
ส่วนในช่วงวันที่ 16-19 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อน ในขณะที่จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนเข้ามาแทนที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลงและอุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน หลังจากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นในบิเวณดังกล่าว
ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน รักษาสุขภาพเนื่องจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไว้ด้วย ส่วนในวันที่ 15 เม.ย. ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก อากาศเย็นในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-40 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-41 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 15-16 เม.ย. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง ในวันที่ 15-16 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ตามบริเวณชายฝั่ง ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 16-21 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในวันที่ 15 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 16-21 เม.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในวันที่ 15 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 16-21 เม.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนและฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 16-21 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74