ระหว่างวันที่ 17 เมษายน 2558 - 23 เมษายน 2558
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. บริเวณความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลงและอุณหภูมิจะสูงขึ้น โดยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 21-24 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บเกิดขึ้นได้ในบริเวณดังกล่าว โดยอุณหภูมิจะลดลงได้ 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น
ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน รักษาสุขภาพเนื่องจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
และอุณหภูมิจะลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
และอุณหภูมิจะลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 17-20 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 21-24 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางแห่ง
และอุณหภูมิจะลดลง อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย.อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย. พายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. มีเมฆบางส่วนกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 17-21 เม.ย. อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 22-24 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74