ระหว่าง 10 สิงหาคม 2558 - 16 สิงหาคม 2558
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 10-12 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องทำให้ความชื้นในอากาศสูงชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคไหม้ ซึ่งจะทำให้ต้นข้าวเสียหาย ผลผลิตลดลงได้
- สำหรับผู้ที่ปลูกพืชไร่ และพืชผักในระยะนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ใบและยอดอ่อนเสียหาย ต้นชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
- ส่วนไม้ผลที่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว เกษตรกรควรรีบตัดแต่งกิ่ง ทรงพุ่มให้โปร่ง เพื่อลดความชื้นในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง อาจทำให้มีน้ำบ่าไหลเข้าแปลงนา ชาวนาควรระวังและป้องกันหอยเชอรี่ที่ลอยมากับน้ำโดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำไหลเข้านาแล้วจับหอยไปทำลาย เพื่อป้องกันหอยเข้ามาแพร่พันธุ์ในแปลงนาในระยะต่อไป
- สำหรับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง และความชื้นในดินมีมาก ผู้ที่ปลูกมันสำปะหลังควรระวังการระบาดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคหัวเน่า และโคนเน่า ในบริเวณแปลงปลูกที่การระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ ชาวไร่ควรหมั่นสำรวจแปลงปลูกหากพบควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้แพร่ไปยังแปลงอื่นๆ
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลพื้นคอกไม่ให้ชื้นแฉะหลังคาอย่าให้รั่วซึมป้องกันสัตว์เลี้ยงเปียกชื้นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกแต่ปริมาณและการกระจายยังไม่เพียงพอ เกษตรกรที่ปลูก ข้าว พืชไร่และไม้ผล ควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมให้กับพืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืช ทำให้ต้นพืชชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง
- สำหรับสภาพอากาศที่ชุ่มชื้น ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรดูแลโรงเรือนให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น ป้องกันสัตว์อ่อนแอ เป็นโรคได้ง่าย
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 10-12 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 13-16 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตก ทำให้อากาศ มีความชื้นสูง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่นโรคไหม้ และใบจุดสีน้ำตาล รวมทั้งศัตรูพืชจำพวกหนอน เช่น หนอนกอข้าว และหนอนห่อใบข้าว เป็นต้น
- ส่วนผู้ที่ปลูกไม้ผล ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องถึงโคนต้น เพื่อลดความชื้นภายในสวน ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า ซึ่งมักระบาดในช่วงที่ดินมีความชื้นสูง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 10-14 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 15-16 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ผู้ที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำลายผลที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ ชาวสวนควรหมั่นสำรวจสภาพภายในสวน หากพบผลที่ศัตรูพืชเข้าทำลายควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังผลอื่นๆ
- สำหรับชาวสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะช่วยลดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 10-14 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ในช่วงวันที่ 15-16 ส.ค. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
- สัปดาห์นี้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังคงมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรติดตามเฝ้าระวังสภาวะดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรได้
- ผู้ที่ปลูกไม้ผลควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำลายผลที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ ชาวสวนควรหมั่นสำรวจสภาพภายในสวน หากพบผลที่ศัตรูพืชเข้าทำลายควรรีบกำจัดเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังผลอื่นๆ
- สำหรับชาวสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งจะช่วยลดการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10-12 ส.ค. บริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นลมแรง โดยทะเลจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74