ระหว่าง 07 กันยายน 2558 - 13 กันยายน 2558
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศมีความชุ่มชื้น ข้าวนาปีที่อยู่ในระยะแตกกอชาวนาควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคไหม้ รวมทั้งป้องกันการระบาดของศัตรูข้าวจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ที่จะกัดกินทำให้ต้นข้าวเสียหายได้
- ส่วนผู้ที่ปลูกพืชไร่ และพืชผักควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรคใบจุด โรคราน้ำค้าง และโรคเน่าคอดิน เป็นต้น
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 9-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง อาจทำให้มีน้ำบ่าไหลเข้าแปลงนา ชาวนาควรระวังและป้องกันหอยเชอรี่ที่ลอยมากับน้ำโดยใช้ตาข่ายดักบริเวณทางน้ำไหลเข้านาแล้วจับหอยไปทำลาย เพื่อป้องกันหอยเข้ามาแพร่พันธุ์ในแปลงนาในระยะต่อไป
- สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำ ควรเตรียมการกั้นขอบบ่อให้สูง เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ่อเมื่อมีฝนตกหนัก จนทำให้สภาพน้ำเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สัตว์น้ำจะปรับตัวไม่ทัน อ่อนแอและอาจส่งผลให้เป็นโรคได้ง่าย
- ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอยู่ในที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตะวันตกของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ในช่วงวันที่ 7- 8 ก.ย. แม้จะมีฝน แต่ปริมาณและการกระจาย ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรให้น้ำเพิ่มเติม และควรให้น้ำอย่างประหยัด โดยให้น้ำเฉพาะบริเวณทรงพุ่ม หรือใช้วิธีน้ำหยด
- ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 ก.ย. จะมีฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับพืช แต่จะทำให้วัชพืชเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเกษตรกรควรสำรวจแปลงปลูกและกำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้แย่งน้ำและอาหารจากพืช นอกจากนี้ควรกักเก็บน้ำไว้ใช้ทางการเกษตรในระยะต่อไป
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
- สัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง สภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ชาวสวนไม้ผล ควรดูแลสวนให้โปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องถึงโคนต้น เพื่อลดความชื้นภายในสวนป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
- สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำในแปลงปลูกให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำขังในพื้นที่เพาะปลูก เมื่อมีฝนตกหนัก
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 7 - 8 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-12 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร เว้นแต่ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ในช่วงวันที่ 7- 8 ก.ย. แม้จะมีฝนตกแต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช ที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมแก่พืช เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้
- ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 ก.ย.จะมีฝนเพิ่มขึ้นทำให้สภาพอากาศมีความชุ่มชื้น ชาวสวนยางพารา และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 7 – 8 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
- ในช่วงวันที่ 7- 8 ก.ย. แม้จะมีฝนตกแต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช ที่อยู่ในระยะเจริญเติบโต เกษตรกรควรจัดหาน้ำเพิ่มเติมแก่พืช เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงได้
- ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 13 ก.ย.จะมีฝนเพิ่มขึ้นทำให้สภาพอากาศมีความชุ่มชื้น ชาวสวนยางพารา และกาแฟ ควรระวังและป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้ต้นพืชเสียหาย ผลผลิตลดลง โดยหมั่นกำจัดวัชพืชและทำความสะอาดภายในสวนให้โล่งเตียน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
- สำหรับไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่และเก็บเกี่ยว ชาวสวนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินทำให้ผลผลิตเสียหายและด้อยคุณภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74