ระหว่าง 14 ตุลาคม 2558 - 20 ตุลาคม 2558
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง กับอุณหภูมิจะสูง ขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า ในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค.ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ระยะนี้แม้จะมีฝนลดลงแต่ สภาพอากาศยังมีความชื้นสูงข้าวนาปีที่อยู่ในระยะใกล้ออกรวง ชาวนาควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรคไหม้ โดยควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด ก่อนที่จะระบาดเป็นบริเวณกว้าง
ในระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนเริ่มต้นฤดูหนาว สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงโดยจะมีอากาศเย็นในตอนเช้าสลับกับบางวันอาจมีฝนตก เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งจัดเตรียมวัสดุสำหรับเพิ่มความอบอุ่นให้แก่สัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์สำหรับกันหนาวให้ตนเองเอาไว้ให้พร้อมใช้งาน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง กับอุณหภูมิจะสูงขึ้น และมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนเริ่มต้นฤดูหนาว เป็นช่วงที่มีน้ำค้างและอากาศชื้นในตอนเช้า เกษตรกรที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมควรระวังโรคราแป้ง และโรคราสนิม ซึ่งสามารถแพร่กระจายโดยฝนและลม โดยควรหมั่นสำรวจแปลงปลูก หากพบควรรีบกำจัด เพื่อไม่ให้ระบาดในแปลงปลูก
เนื่องจากระยะต่อไปจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรจัดเตรียมวัสดุสำหรับเพิ่มความอบอุ่นให้แก่สัตว์เลี้ยง และอุปกรณ์สำหรับกันหนาวให้ตนเองไว้ให้พร้อม รวมทั้งดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค.ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนเริ่มต้นฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่สัตว์ เช่น โค กระบือ แพะ แกะ และสัตว์ปีก มักเจ็บป่วยจากการโดนลม และฝน เกษตรกรควรดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพแข็งแรงโดยมีการจัดการโรงเรือนหรือคอกเลี้ยงสัตว์ ให้สามารถป้องกันฝนและลมหนาวในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง และควรให้วัคซีนสัตว์แต่ละชนิดให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ด้วย
สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชรอบใหม่หลังการทำนา ควรเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น รวมทั้งวางแผนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้พอใช้ตลอดช่วงแล้ง
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค.ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้สภาพอากาศ และความชื้นในดินมีอยู่มาก ชาวสวนไม้ผลควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา โดยเฉพาะโรครากเน่าโคนเน่า รวมทั้งระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนซึ่งจะกัดกินส่วนที่อ่อนของพืชทำให้ต้นพืชเสียหายได้
สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกพืชในระยะนี้ ควรคลุกเมล็ดพันธุ์หรือชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารป้องกันเชื้อรา ก่อนปลูก
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค.ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
เนื่องจากระยะต่อไปจะเป็นฤดูฝนของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ปริมาณและการกระจายของฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรขุดลอกทางระบายน้ำอย่าให้ตื้นเขิน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก ป้องกันน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรเมื่อมีฝนตกหนัก
สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหาย เนื่องจากคลื่นลมแรงไว้แต่เนิ่นๆ
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 14-17 ต.ค.ลมตะวันออกเฉียง เหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1- 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ส่วนทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกบางพื้นที่แม้ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงกว่าระยะที่ผ่านมา แต่ความชื้นในดินยังคงมีสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชสวน เช่น ยางพารา และกาแฟ
สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งควรระวังและป้องกันความเสียหาย เนื่องจากคลื่นลมแรงไว้แต่เนิ่นๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74